Chapter 9
///////// Gajeel
/////////
สุดท้ายผมก็ต้องวิ่งตามยัยเปี๊ยกนั่นมา
ให้ตายเถอะ!! เห็นตัวเล็กๆแบบนั้น แต่วิ่งไวชะมัด
หายไปไหนของเธอนะ?
ผมกระโดดขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าของตึกสูงแห่งหนึ่ง
เพื่อมองหายัยเปี๊ยก
ความกังวลแปลกๆข้างในใจนี่มันคืออะไร
ผมไม่เข้าใจเลย
กับอีแค่ออกไปทำงาน ยัยนั่นจะมาอะไรกับผมนักหนา …. ก็แค่จะไม่อยู่เดือนสองเดือนเท่านั้นเอง
ผมกวาดสายตามองไปทั่วเมือง
และดมกลิ่นที่ลอยมาตามลมในอากาศ ส่วนในหัวก็คิดถึงคำพูดของหลายคนที่กิลด์
////// ย้อนไปเมื่อหลายนาทีก่อน //////
“ไอ้บ้ากาซีล
แกทำเลวี่ร้องไห้เหรอวะ!!” เจ็ทปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อผม
“ห๊ะ!?”
ผมมองมันอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
ร้องไห้….อะไร
ยัยนั่นร้องไห้อีกแล้วเหรอ
มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอไง
เลวี่น่ะเจออะไรนิดอะไรหน่อยก็ร้องไห้แล้ว
ก็ยัยนั่นน่ะอ่อนแอจะตายไป…..เพราะงั้นผมถึงชอบอยู่ข้างๆเธอ
เพราะกลัวว่าถ้าคลาดสายตาไป เธออาจจะเป็นอันตราย หรือโดนทำร้ายได้
“แกอย่ามาหาเรื่องกับฉันดีกว่าเจ็ท”
ผมแกะมือของเจ็ทที่ขยุ้มคอเสื้อของผมไว้ออก
“แก….แกนี่มัน” เจ็ทกัดฟันกรอด
“แกควรตามเลวี่ไป” ดรอยพูดขึ้น
“ทำไมฉันต้องตาม?”
ผมถามกลับอย่างไม่ได้ตั้งใจจะกวน เพียงแค่ผมไม่เข้าใจ
วันนี้ไอ้พวกบ้านี่เป็นอะไรกันไปหมด
“เพราะที่เลวี่ร้องไห้ก็เพราะกาซีลคุงเป็นต้นเหตุไงคะ
แค่นี้จูเบียว่ามันก็มากพอแล้วที่จะเป็นเหตุผลให้กาซีลคุงตามเลวี่ไป” ยัยจูเบียที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากผมพูดขึ้น
“ถ้านายเป็นลูกผู้ชาย
นายก็ต้องไปขอโทษเลวี่ซะ กาซีล” เอลฟ์แมนเสริม
“ไร้สาระน่ะ
ฉันทำอะไรผิดตอนไหน ทำไมต้องไปขอโทษ” พูดจบผมก็ลุกขึ้นจากโต๊ะที่นั่งอยู่
แล้วเดินออกจากกิลด์มาอย่างหัวเสีย
ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมตั้งใจจะออกไปไหน
…. แต่มารู้ตัวอีกที
ตัวผมก็กำลังกวาดสายตามองหายัยเปี๊ยกนั่นอยู่ซะแล้ว
//////////////// กลับมาปัจจุบัน ////////////////
ให้ตาย!! วันนี้ในเมืองคนเยอะเกินไป
ผมไม่ได้กลิ่นเลวี่เลย
เห้อ…. เธอจะทำให้ฉันลำบากไปถึงไหนห๊ะ!!
นี่มันก็เริ่มมืดแล้วด้วย หายไปแบบนี้คนเดียว มันดีซะที่ไหนเล่า!!
“โว้ยยยยย!! หงุดหงิดเว้ย!” ผมบ่นกับตัวเอง
เรียกสายตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นให้หันมามองอย่างหวาดๆได้เป็นอย่างดี
“มองอะไรวะ!” ผมหันไปขึ้นเสียงใส่คนแถวนั้น จนพวกเขาต่างวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไป
ผมไม่ได้จะห่าม
หรือจะโหดอะไรหรอกนะ เพียงแต่…มันเป็นนิสัยติดตัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“ไม่ได้นะกาซีล
นายต้องหัดพูดจาดีๆกับคนอื่นเค้าบ้างสิ”
อยู่ๆ เสียงของยัยเลวี่ก็ดังขึ้นมาในหัวผม
ทำเอาผมต้องหันซ้ายหันขวามองหายัยนั่นยกใหญ่
“คิดไปเองเหรอ” ผมพึมพำกับตัวเอง
เวลาที่ยัยนั่นอยู่ข้างๆผม
ยัยนั่นจะคอยพูดนั่นพูดนี่อยู่ตลอดเวลา จนผมรำคาญ
กาซีลอย่างนั้นไม่ได้นะ
กาซีลอย่าทำอย่างนี้สิ กาซีลแบบนั้นมันอันตรายเกินไปแล้วนะ
อะไรก็กาซีล กาซีล
กาซีล
แต่ถึงอย่างนั้นพอไม่มีเสียงเล็กๆแหลมๆนั่นคอยโวยวายข้างๆหู
โลกใบนี้มันก็ดูเงียบแปลกๆแฮะ
“เธอนี่มันร้ายจริงๆนะ
ยัยเปี๊ยก”
//////////////////// Rena ///////////////////////
ตอนนี้ฉันกับเกรย์อยู่บนรถไฟที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองโอชิบานะ
ที่ที่ฉันกับเขาต้องไปทำภารกิจด้วยกันครั้งแรก….น่าแปลก
อีตานี่ไปกินยาผิดขนานมาหรือเปล่า ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้ชวนฉันออกมาทำภารกิจด้วยกันแบบนี้
แล้วนี่ยังจะมานั่งเงียบเป็นรูปปั้นน้ำแข็งอีก….เห้อออ
พูดกับฉันแต่ละทีนี่นายต้องใช้พลังงานมากใช่ไหมเกรย์ นายถึงต้องประหยัดคำพูดขนาดนี้น่ะ
ดูเหมือนว่าก่อนที่เราจะออกเดินทางมาที่นี่
เลวี่กับกาซีลจะทะเลาะกันหนักเอาเรื่องแฮะ เธอผลักกาซีลล้มลงไปกองกับพื้น แล้วก็ร้องไห้วิ่งหนีไป
ทำเอาเจ็ทโมโหยกใหญ่ ถึงกับวิ่งเข้าไปกระชากคอเสือกาซีลเลยล่ะ ฉันล่ะกลัวว่าจะทะเลาะกันใหญ่โตซะจริง….ตอนนี้คุณปู่ก็ไม่อยู่ที่กิลด์ซะด้วยสิ
ถ้าเกิดมีเรื่องกันจริงจังขึ้นมาล่ะก็….ยุ่งแน่
แต่ยังไม่ทันที่จะได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรต่อ
เกรย์ก็ลากแขนฉันออกมาจากกิลด์….ขอย้ำว่าลาก !!
เห้ออออ….ความอ่อนโยนของนายนี่
หายไปกับสายลมหมดแล้วเหรอไงนะ ชิ!!
“นี่เกรย์” ฉันตัดสินใจเปิดประเด็นขึ้น
คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเล็กน้อย….แต่กลับไม่มองหน้าผู้พูดอย่างฉัน
ให้ตาย!!! นี่หน้าฉันมันน่ารังเกียจมาก
จนนายทนมองไม่ได้เลยเหรอไงยะ!!
“ว่า?”
“ทำไมอยู่ๆนายถึงชวนฉันออกมาล่ะ”
ฉันถามออกไป พยายามไม่สนใจท่าทีเย็นชาของเขา
“จะอยากรู้ไปทำไม” เขาปิดหนังสือลง ก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นนั่งกอดอกแล้วหลับตาลง
ราวกับเสียงของฉันมันรบกวนโสตประสาทของเขามากอย่างนั้นแหละ
เห้ย!!!! จะมากไปแล้วนะ
นี่ฉันกวนใจนายมากเหรอไงห๊ะ!!
“พูดกันดีๆสักห้านาที
นายจะตายมั้ยห๊ะ!!” ฉันพูดขึ้นอย่างเหลืออด แต่คนตรงหน้ากลับไม่สะทกสะท้าน
“ถ้านายไม่บอกเหตุผลมา
ฉันก็จะกลับ!!” ฉันคว้ากระเป๋าเป้ของตัวเอง
ก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“จะเตือนให้รู้
ว่าตอนนี้เธออยู่บนรถไฟ” เขาพูดนิ่งๆ
ด้วยท่าทีที่ดูน่าหมั่นไส้สำหรับฉันที่สุด
“แล้วไง?” ฉันฉุนขึ้นคอ
“แล้วเธอจะลงไปได้ยังไง”
“ฉันจะลงสถานีหน้า”
ฉันพูดเสียงดัง เรียกสายของคนแถวนั้นได้อีกหลายคู่
“เธอโง่หรือโง่
ไม่รู้เหรอไงว่านี่มันรถด่วนพิเศษ จะจอดที่สถานีปลายทางที่เดียวเท่านั้น
ซึ่งมันก็คือเมืองโอนิมบัส”
เอ้อ!! พอนายนี่พูดน้อย
ก็น้อยจนน่าอึดอัด แต่บทจะพูดมาก ก็ด่าเอาๆ
ใช่สิ ฉันมันโง่ก็ได้ว้อยยค่ะ
“เอ้อได้
งั้นพอไปถึงที่นั่น เดี๋ยวฉันจะนั่งรถไฟอีกขบวนกลับแมกโนเลีย นายจะได้สบายใจ
ไม่มีฉันอยู่เกะกะ รกลูกหูลูกตาอีกต่อไป แต่ความจริงงานนี้ ถึงไม่มีฉัน นายก็ทำเองได้สบายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง”
ฉันโวยวายใส่เขา
“ฉันแค่เบื่อ
ว่าง ไม่มีไรทำ เห็นเธออยู่รกๆก็เลยลากมา มีปัญหาอะไรมั้ย” คนตรงหน้ายังคงรักษาความกวนได้อย่างไม่ลดละ
ยิ่งใบหน้านิ่งๆนั่น ยิ่งทำให้ฉันอยากจะเรียกนัทสึมาพ่นไฟใส่เขา
ให้ตายสิ คนบ้า!
“งั้นทำไมนายไม่ชวนลูซี่
กับนัทสึ ไม่ก็เอลซ่ามาเป็นเพื่อนล่ะห๊ะ!!”
“ฉันไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอของลูซี่
ส่วนเอลซ่า ช่วงนี้คงอยู่กับเจ้านั่น คงยังไม่อยากไปไหนไกลจากเมืองนักหรอก”
“เหอะ!
โดนทิ้งสินะ” ฉันหัวเราะเยาะ
“นี่เธอ!”
เกรย์ทำท่าจะพุ่งใส่ฉัน ทำเอาฉันผงะถอยหลังไปสองก้าว
กรี๊ดดด น่ากลัวอะ T^T
“แล้วทำไมนายไม่ชวนจูเบียยอดรักมาล่ะห๊ะ!”
ฉันยังกัดไม่ปล่อย
“พูดอะไรของเธอ”
เกรย์คิ้วขมวด
“ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น
ว่านายกับจูเบียเป็นอะไรกัน” ฉันกอดอก ยืนมองเขานิ่งๆ
“ใครๆที่ว่าของเธอน่ะมันใคร”
ดูเหมือนเกรย์จะสนใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะฉันอ่านสายตาที่บัดนี้ละทิ้งความเย็นชาของเขาไปหมดแล้วออก
“กะ….ก็คนในกิลด์” ฉันตอบอย่างตะกุกตะกัก ก็เพราะความจริง
ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้น่ะสิ มีแต่ฉันนี่แหละที่คิดเอาเองเป็นตุเป็นตะ
“คนไหน
ชื่ออะไร?”
แว๊กกกกกกกกกกกก
แล้วนายจะมาคาดคั้นฉันให้ได้อะไรล่ะยะ ชิ!
ฉันส่งค้อนวงใหญ่ให้เขา
ก่อนจะพูดว่า
“นายจะอยากรู้ไปทำไม….รู้แล้วได้อะไร”
“เหอะ!
จริงสินะ…. ฉันน่าจะชวนจูเบียมาด้วยกัน
ดีกว่ามาชวนยัยเด็กมีปัญหาอย่างเธอ”
เอ้อ!! ใช่สิ
ฉันมันแย่
ฉันมันไม่ดี จะมีใครสู้จูเบียของนายได้ล่ะ
“ได้!
ถ้านายพูดถึงขนาดนั้น … ฉันจะกลับ!”
///// เอี๊ยดดดดด
////////
อยู่ๆเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
รถไฟเบรกเสียงดังเอี๊ยดด ทำเอาฉันที่ยืนกอดอกเก๊กหน้าสวยอยู่ ถลาล้มไปข้างหน้า
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
<<< แน่นอนว่าเป็นเสียงของฉันเองไม่ใช่ใคร
แม่เจ้า หน้าหนูแหกแหงแซะ
T^T
ในขณะที่ฉันเตรียมตัวรับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นเพราะหน้าฉันพุ่งไปกระแทกกับที่นั่งบนรถไฟ
ก็มีสิ่งหนึ่งรวบตัวของฉันไว้ได้ทัน
พอฉันลืมตาขึ้นก็พบว่า
คนที่อยู่ตรงหน้าฉันไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากนายน้ำแข็งเดินได้….เกรย์
เขารวบตัวของฉันไว้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว
พระเจ้า!! นี่มันใกล้เกินไปมั้ย!!
อีกสิ่งที่ทำให้ฉัน
ช็อค จนแทบหยุดหายใจก็คือ….ปากของฉันไปชนเข้ากับปากของเขาอย่างจัง
พระเจ้า!!!!!!! (อีกครั้ง) นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย
ฉันรีบถอยกรูดออกมาจากเกรย์แทบจะในทันทีที่ครองสติได้
“อะ….เอ่อ…..ฉะ….ฉัน….เอ่อ”
โว้ยยยย
เกิดมาเป็นโรคติดอ่างอะไรตอนนี้นะเรนะ
“อะ…เอ่อ” เกิดบรรยากาศแปลกๆขึ้นระหว่างเราสองคน
บ้าเอ้ย!! อยู่ๆคำพูดก็หายเข้ากลีบเมฆไปหมด
…. ไม่อยากคิดเลยว่าตอนนี้หน้าฉันมันจะแดงขนาดไหน
พระเจ้าคะ!!! ฉันเผลอไปจุ๊บปากเกรย์อะ
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กรี๊ดดดด ยัยเรนะ
กลับมาก่อนนน อย่าพึ่งหลุดโลกสิยะ!!
ฉันพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมาก่อนที่จะพูดว่า
“เอ่อ…ขอบใจนะ” ฉันก้มหน้างุดๆ ราวกับบนตักของตัวเองมันมีหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นแหละ
ยัยบ้า!! เกรย์อยู่ตรงนู้น
อยู่ตรงข้ามเธอนู่นน เงยหน้ามองเขาสิยะ!
“ละ….แล้วก็…ขะ….ขอโทษเรื่องเมื่อกี้ด้วย”
ว๊ากกกกกกกกกกก !! มันจะดีมากถ้าเธอไม่ไปพูดถึงมัน
ยัยเรนะบ้าเอ้ย !! จะขุดหลุมฝังตัวเองเหรอไง
ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
อยู่ๆเกรย์ก็ยื่นหน้ามาหาฉันซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเขา ก่อนจะพูดช้าๆชัดๆตรงหน้าฉันว่า
“ยัย
ซุ่ม ซ่าม”
“คนบ้า
เอาหน้าของนายออกไปห่างๆนะ!” ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเอง
แล้วใช้มืออีกข้างดันหน้าอกของเขา
ไม่ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกับเค้าเอาปากมาชนกันแบบนี้
ก็แต่ก่อน พวกเราสนิทกันมาก ก็เลยมีบ้างที่จะจุ๊บๆกันอะไรแบบนั้น
แต่ครั้งนี้
มันแตกต่างจากเมื่อตอนเด็กๆ หัวใจที่เต้นแรงนี่มันคืออะไรนะ ทำไมเวลาที่ฉันเข้าใกล้เขา
มันเหมือนกับมีคลื่นไฟฟ้าส่งผ่านจากตัวเขามาหาตัวฉันนะ
รู้สึกใจเต้นแรง
มือสั่น ปากสั่นไปหมดเลย
กรี๊ดดดด
นี่ฉันเป็นโรคร้ายรึเปล่าเนี่ย
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
เค้าจับแขนฉันยกขึ้น มองซ้ายมองขวา สำรวจตัวฉันใหญ่
“อ๊ะ….อะ….อื้มมม….,มะ…..ไม่เป็นไรหรอก ก็นายช่วยไว้ทันนี่” ฉันก้มหน้างุดๆเพื่อหลบสายตาเขา
“ก็ดีแล้ว….ถ้าเธอเป็นอะไรไป เดี๋ยวมาสเตอร์จะว่าฉันได้ ไหนจะยัยเอลซ่ากับลักซัสอีก”
เขาถอยกลับไปนั่งประจำที่ตัวเอง
“เชอะ!
ใช่สิ” ฉันแกล้งทำหน้าบูด
เพราะในใจกลับคิดเข้าข้างตัวเองว่า บางทีเกรย์อาจจะยังห่วงฉันบ้างเหมือนกัน
เหมือนเมื่อก่อนนี้ ……
“แล้วลืมเรื่องที่จะกลับคนเดียวได้เลย
ขืนฉันปล่อยเธอกลับไป ไม่เอลซ่าก็ลักซัส ต้องตามมาเชือดฉันแน่ เข้าใจ?”
เหอะ!! อะไรก็คุณปู่
อะไรก็เอลจัง อะไรก็พี่ลักซัส
แค่จะยอมรับว่า
นายก็ห่วงฉันเหมือนกัน มันยากนักเหรอไงยะ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น