วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

[FIC] Fairy Tail :: Let Melt The Ice - Chapter 14 :: น้ำแข็งที่เริ่มละลาย


Chapter 14
เรนะ.....เรนะ.....เรนะ
ใคร…..นั่นเสียงใครกัน
จำข้าไม่ได้แล้วงั้นเหรอ
เสียงนี้มัน….เฟรย่างั้นเหรอ!
เจ้าจะมายอมแพ้ที่นี่งั้นเหรอ
ใครกัน ใครจะยอมแพ้ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย
ฉันมองไปรอบๆตัว แต่สิ่งที่พบกลับมีแต่ความมืดมิด
เฟรย่าบอกฉันทีว่าที่นี่คือที่ไหน
เจ้าเด็กนั่นกำลังลำบาก
เด็กนั่น….เธอหมายถึงใครกันเฟรย่า
คนที่เจ้าเฝ้าคิดถึงมาตลอด 7 ปีที่ได้รู้จักกับข้า คนที่เจ้าเกือบจะยอมสละชีวิตตัวเองเพราะคิดว่าโลกใบนี้ไม่มีเขาอยู่ เจ้าเด็กที่ใช้น้ำแข็งนั่นไง
เกรย์…..
หมดเวลานอนเล่นแล้วบุตรแห่งข้า …. จงตื่นขึ้น …. อย่ายอมแพ้เพราะเวทย์กักมนตราเพียงแค่นั้นจงแสดงพลังแห่งข้าให้พวกมนุษย์ชั่วร้ายพวกนั้นได้เห็น
เดี๋ยวสิเฟรย่า แล้วเธอจะไปไหน อยู่ด้วยกันก่อนสิ
ข้าอยู่กับเจ้าเสมอ …. บุตรรัก …. ข้าเฝ้ามองเจ้าเติบโต จากที่ห่างไกลนี่ …..
แล้วทำไมต้องไปอยู่ที่ไกลๆด้วยเล่า เราอยู่ด้วยกันแบบเมื่อก่อนไม่ได้เหรอ
โลกของข้า กับโลกของเจ้า แตกต่างกัน ถ้าข้าไปอยู่ในโลกของเจ้า โลกของเจ้าก็จะไม่สมดุล ในขณะที่ถ้าเจ้ามาอยู่ในโลกของข้านานกว่านี้ ร่างเจ้าที่เป็นมนุษย์ก็จะต้องสลายไป….
แต่ว่าเฟรย่า….
จุดประสงค์แรกเริ่ม ที่เจ้าร่ำเรียนเวทย์ปราบมังกรคืออะไรบุตรข้า เจ้าลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือ
เพื่อกำจัดความมืดให้หมดไป ฉันไม่มีวันลืม …. ทั้งเซเรฟ และอัคโนโลเกีย มังกรที่ฉันคิดว่าได้คร่าชีวิตของคนที่ฉันรักไป
เจ้าจำได้….แล้วตอนนี้เจ้ารอช้าอยู่ไร …. ความมืดอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว จงใช้แสงสว่างของเจ้าปลดปล่อยมัน
อื้อ เข้าใจแล้วล่ะค่ะ…..ท่านแม่
เจ้าคือความภาคภูมิใจของข้า….เรนะ บุตรแห่งเฟรย่า

สิ้นเสียงของเฟรย่า แสงสว่างก็ค่อยๆทอแสงบดบังความมืดมิดจนสิ้น ภาพตรงหน้าปรากฎร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากที่ๆฉันนอนสลบอยู่เมื่อครู่มากนัก ตัวเธอมีแผลฉกรรจ์ไปทั้งร่าง
ที่นี่คือที่ไหน …. แล้วคนพวกนั้นมุงอะไรกันอยู่น่ะ
ตุ้บ ตั้บ ตุ้บ ตั้บ
เสียงเนื้อปะทะเนื้อ และไม้ปะทะเนื้อดังก้องไปทั่ว
มีใครกำลังโดนรุมซ้อมอยู่งั้นเหรอ
….
เดี๋ยวนะ สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้ก็คือ ฉันกำลังบินสำรวจฐานลับของพวกดาร์กฟ็อกซ์นี่….อย่าบอกนะว่าที่นี่คือ….
เจ้าเด็กนั่นกำลังลำบาก
อยู่ๆคำพูดของเฟรย่าก็เตือนสติฉันขึ้นมา
ไม่จริงน่า….เกรย์น่ะเหรอจะโดนไอ้พวกกระจอกนี่ซ้อม
เป็นยังไงล่ะไอ้จอมเวทย์น้ำแข็ง ยังกล้าปากดีอยู่มั้ยหญิงสาวที่เมื่อสักครู่ยืนอยู่เบื้องหน้าฉันเดินฝ่าวงล้อมของผู้ชายหน้าประจวดนับสิบเข้าไปกลางวง
ทุกคนต่างรีบแหวกทางให้เธอได้เดินผ่านไปอย่างง่ายดาย….
ยัยนี่น่ะเหรอ....นายหญิงแห่งดาร์กฟ็อกซ์
เดี๋ยวสิจอมเวทย์น้ำแข็ง….
อย่าบอกนะว่าคนที่โดนไอ้พวกนั้นซ้อมอยู่คือเกรย์
!!
เกรย์!!!!!!!!!!!!!”
ฉันกรีดร้องขึ้นทันที เมื่อเห็นร่างของผู้ชายที่แสนคุ้นเคยนอนสะบักสะบอมอยู่กับพื้น ตามร่างกายของเขามีแผลไม่รู้กี่สิบแห่ง ที่หัวและมุมปากมีเลือดไหลซึมออกมา
ไม่จริง …. เกรย์
หยาดน้ำอุ่นๆค่อยๆไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของฉัน

ทำไม ทำไมเป็นแบบนี้
อย่างนายไม่มีทางแพ้ไอ้พวกนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
เกรย์…..
อะ อ้าวว แฟนแกฟื้นแล้วว่ะ ไอ้หนุ่มผู้ชายหน้าประจวดคนหนึ่งพูดขึ้น
หึหึ ของเล่นชิ้นเอกของฉัน ฟื้นแล้วงั้นเหรอ….แบบนี้มันค่อยสนุกหน่อย
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวร่างของฉันก็ถูกพลังอะไรสักอย่างทำให้ปลิวไปหาเกรย์ที่นั่งอยู่กลางวงล้อมของพวกมัน
โอ้ยยยย
ตัวฉันกระแทกกับพื้นอย่างแรง เจ็บชะมัด
เธอ….เป็นอะไรมั้ย
เสียงของเกรย์ดูแผ่วเบากว่าทุกครั้ง คนบ้า
นายอย่าเป็นอะไรนะ T^T
ฉันควรจะถามนายมากกว่า …. แข็งใจเอาไว้นะ …. ฉันจะพาออกไปจากที่นี่เอง
ฉันต้องเป็นคนพูดประโยคนั้นไม่ใช่เหรอไง ฮ่ะๆ
อีตาบ้าเอ้ยย สภาพเยินขนาดนี้ ยังจะมาหัวเราะอีกเหรอห๊ะ!!
ช่างเถอะน่า นายเฉยๆไว้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”           
โอ๊ะโอ่ คุณหนู เธอจะทำอะไรได้ไม่ทราบจ๊ะ ดูหน้าเธอสิ ซีดอย่างกับไก่ต้มขนาดนี้ ท่าจะโดน Dark Bind ของฉันดูดพลังเวทย์ออกมาแทบไม่เหลือแล้วสินะ แล้วอีกอย่างคนที่โดน Dark Bind ควบคุมอยู่น่ะ ใช้เวทย์ไม่ได้หรอกน้า ฮ่าๆๆ
นังผู้หญิงที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นนายหญิงอะไรนั่นหัวเราะเสียงแหลม
กรี๊สสสส มันน่าจับมาตบ ตบ ตบ ตบ ตบให้เละซะจริง (นางเอกหัวรุนแรง :: คนเขียน)
กล้าทำกับเกรย์ของฉันแบบนี้ได้ไงยะ !!
ไอ้ของกระจอกแบบนี้….คิดเหรอว่าจะหยุดจอมเวทย์แห่งแฟรี่เทลได้!!”
ฉันรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีระเบิดเวทย์ Dark Bind ของนายหญิงอะไรนั่นทิ้งอย่างง่ายดาย
แล้วแกจะต้องเสียใจ…..ที่กล้าทำให้คนของฉันได้แผล! Holy Dragon’s Wing Attack”

///////////// GRAY ////////////////

.......คนของฉันงั้นเหรอ.....
ยัยนี่ เหลือเกินจริงนะเธอ
ผมลอบยิ้มเพราะคำพูดบางคำของคนตรงหน้า
ว่าแต่...นี่มันพลังแบบเดียวกับนัทสึเหรอ ….. นี่สินะ ดราก้อนสเลเยอร์แห่งแสง
พวกดาร์คฟ็อกซ์ต่างกระเด็นไปคนละทิศละทาง ด้วยฝีมือของผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนอยู่ข้างๆผม
เหอะ! นี่ผมเป็นผู้ชายประสาอะไร ถึงต้องมาให้ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างยัยนี่ปกป้องน่ะ
คราวนี้ก็ถึงตาแกแล้ว ยัยป้าหน้าเหี่ยว ฉันจะเอาคืนเป็นสองเท่า โทษฐานที่แกทำให้ฉันและเกรย์ต้องเจ็บตัว
กรี๊ดดดดดดดดด ยอมแล้วค่ะนายหญิงแห่งดาร์กฟ็อกซ์รีบคุกเข่าก้มหัวให้กับเรนะ
ฮ่าๆ ยัยนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ
แต่ฉันไม่ยอมโว้ย….กล้าทำให้คนที่ฉันระ….อุ้บ!” ยัยนั่นรีบเอามือปิดปากตัวเอง
คนที่ฉันระ….อะไรเล่า พูดๆมาให้จบสิ
ไม่รู้ล่ะ ฉันไม่ให้อภัยแกแน่ Holy Arrow…..”

เวทย์อะไรน่ะ? อย่างกับเวทย์เปลี่ยนศาสตราของเอลซ่า
แสงมากมายรวมตัวกันเป็นรูปคันธนูที่มือของเรนะ
“SHOOT!!” ลูกธนูที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนพุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่างแม่นยำ และฉับไว
มีเหรอ นายหญิง อะไรนั่นจะรอด ฮ่าๆ
ยัยนี่เจ๋งขึ้นมากเลยแฮะ

เกรย์!”
ทันทีที่จัดการพวกดาร์กฟ็อกซ์เรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบวิ่งมาหาผม
ลุกไหวมั้ยเธอถามอย่างเป็นห่วง
ผมไม่ตอบเพียงแต่ดึงร่างของคนตรงหน้าเข้ามากอด….ราวกับกลัวว่าเธออาจจะหายไปต่อหน้าต่อตาผมอีกเป็นครั้งที่สอง
เธอไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว....ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก
ตอนที่เธอโดนยิงตกลงมาจากฟ้า....เธอจะรู้มั้ย....ว่าผมกลัวแค่ไหน
กลัวที่จะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก....
กลัวว่าเธออาจะเป็นอะไรไป เพราะผมปกป้องเธอไม่ได้
เกรย์…..เธอเรียกชื่อผม
อื้อ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก นายนั่นแหละทำไมถึงยอมให้พวกมันซ้อมแบบนั้นล่ะ

ผมค่อยๆผละออกจากเธอ ก่อนจะพูดว่า
ไม่มีอะไรหรอก...เสียท่านิดหน่อยน่ะผมเลือกที่จะโกหกออกไป
ไม่จริงหรอก....ฝีมืออย่างไอ้พวกนั้น นายคนเดียวก็จัดการได้สบายอยู่แล้วนี่นาคนตรงหน้าขมวดคิ้ววุ่น
หรือเพราะว่า....มันจับตัวฉันไว้…..” ผมสัมผัสได้ถึงเสียงสั่นๆของยัยนี่
ไม่เอาน่า....อย่ามาร้องไห้ต่อหน้าผมอีกนะ ...

ดูสิ....เลือดออกเต็มไปหมดเลยเธอใช้มือแตะเบาๆที่หน้าผากของผม ที่ตอนนี้รู้สึกได้ถึงของเหลวคาวๆที่ค่อยๆไหลออกมาจากปากแผล
หัวแตกหล่ะมั้ง.....
ก็ตะกี้ ไม่รู้ไอ้เวรตัวไหนมันเอาไม้หน้าสามฟาดหัวผมซะเต็มแรงเลย
 ช่างมันเถอะน่า....เรากลับกันดีกว่า
ผมพยายามจะยันตัวลุกขึ้นจากพื้น แต่ยัยนั่นกลับกดร่างผมไว้
นั่งเฉยๆก่อนดีกว่า เดี๋ยวฉันรักษาให้
ผมมองเธออย่างงงๆ .... รักษางั้นเหรอ
?
“HOLY HEAL!”
แสงอุ่นๆถูกส่งผ่านจากมือทั้งสองของเธอมายังร่างกายของผม

ความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้มันคืออะไรกันนะ

เธอใช้เวทย์รักษาได้ด้วยเหรอ
ผมถามขึ้น ยังคงไม่ละสายตาไปจากใบหน้าสวยได้รูปตรงหน้า ที่ตอนนี้มีแผลเต็มไปหมด
ถ้ายัยนี่มีแผลเป็นขึ้นมา ผมจะกลับมาจัดการนังป้าหนังเหี่ยว(เรียกตามเรนะ) นี่ให้เละเลย คอยดูสิ
ก็นิดหน่อยน่ะ เฟรย่าสอนมาเธอยิ้มให้ผม
รอยยิ้มที่อบอุ่น ไม่ว่ามองเมื่อไหร่ก็รู้สึกดีนี่
ผมชอบจังเลยแฮะ   
รู้สึกดีขึ้นมั้ย
เธอเงยหน้าขึ้นมาถามผม เป็นจังหวะพอดีกับที่ผมกำลังจ้องมองเธอออยู่
ดีขึ้นมากเลยล่ะผมยังคงจ้องมองเธอนิ่ง เธอเองก็จ้องผมกลับเหมือนกัน
เรนะเป็นฝ่ายถอนสายตาออกไปก่อน ก่อนจะก้มหน้างุดๆ แล้วพูดขึ้นว่า
จะมองอะไรนักหนา
เดี๋ยวนี้มองไม่ได้เหรอผมแกล้งถาม
ไม่ได้!” ใบหน้าเธอขึ้นสี
ผมแอบหัวเราะกับท่าทีของเธอ….ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่านี่มันก็น่ารักดี
เอายังไงกับพวกนี้ดีเธอเริ่มเปลี่ยนเรื่อง
เดี๋ยวก็แจ้งทางการมาจับก็จบผมตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก
เธอเองก็บาดเจ็บไม่ใช่เหรอผมพูดขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นรอยแผลที่ข้อมือของเธอ
อื้อ จะว่าไปก็เจ็บๆไปทั้งตัวเลยแฮะ
ไม่ใช้เวทย์รักษาตัวเองล่ะผมถาม
ทำได้ที่ไหน เวทย์รักษาของฉัน รักษาได้แต่คนอื่นน่ะเธอนั่งแหมะลงอีกทีข้างๆผม
เหรอ? …. งั้นส่งมือเธอมาสิเธอมองหน้าผมก่อนจะยื่นมือมาให้ผมจับอย่างงงๆ
เกรย์ใช้เวทย์รักษาได้ด้วยเหรอ เธอถามอย่างสงสัย
ยิ่งกว่าเวทย์รักษาอีก ผมก้มลงใช้ริมฝีปากจุมพิตที่หลังมือของเธอ
เกรย์!” ผมเหลือบมองก็พบว่าคนตรงหน้า หน้ากลายเป็นสีชมพูระเรื่อเป็นที่เรียบร้อย
เรนะพยายามชักมือของเธอกลับ แต่ผมขืนไว้ มือของเธอจึงยังอยู่ในกำมือของผม
นายกำลังจะทำให้ฉันเป็นลมเรนะพูดไปหน้าแดงไป
ผมค่อยๆดึงมือของเธอขึ้นมากุมไว้ด้วยสองมือของผม ก่อนจะพูดว่า
ขอโทษนะ …. ทั้งๆที่ฉันควรเป็นคนปกป้องเธอแท้ๆแต่กลับต้องมาให้เธอปกป้องซะนี่ แย่จริงๆเลยใช่มั้ยผมพูดขึ้น ในหัวคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
พูดอะไรอย่างนั้น ถ้าไม่มีนาย….ฉันคงไม่ตื่นจากเวทย์นั่น ถ้านายไม่บุกเข้ามาช่วย ฉันคนเดียวก็คงหนีออกไปจากที่นี่ไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ เผลอๆอาจจะโดนไอ้เวทย์บ้านั่นดูดพลังจนหมดตัวไปแล้วก็ได้ เพราะงั้น.....เราก็ต่างปกป้องกันและกันนะ โอเคมั้ย เธอยิ้มให้ผม
โอเคก็ได้ แต่มันดูไม่เท่เลยนะผมบ่นกระปอดกระแปด
ฉันว่า ถ้าพวกมันไม่มีฉันเป็นตัวประกัน นายถล่มคนเดียวก็ไหวมั้ง
ไม่รู้สิ….”
นี่….เมื่อตะกี้เป็นห่วงฉันมากมั้ย อยู่ๆยัยเรนะก็ถามขึ้น
อยู่ๆถามอะไรเนี่ยผมสะดุ้งเล็กน้อยเพราะคำถามของเธอ
ก็ฉันอยากรู้ ตอบมาเร็วเข้า ยัยนั่นเขย่าแขนผม
เอ่อ....ก็ต้องห่วงสิ อย่างน้อยเธอก็คือคนในกิลด์ แล้วเราก็เคยเป็นเพื่อนสนิทกันด้วย แถมตอนนี้เรายังมาด้วยกันอีก ก็ต้องห่วงบ้างล่ะน่า”    
ตอบให้มันน่าประทับใจกว่านี้ไม่ได้เหรอไง เชอะ!” เธอทำหน้าบูด ทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งจนได้
นานเท่าไหร่แล้วนะ....ที่ผมไม่ได้ยิ้ม แล้วก็หัวเราะออกมาจากใจจริงแบบนี้
ตั้งแต่เธอจากไป....ผมก็ปิดตายหัวใจของตัวเอง....
ไม่คิดที่จะรัก ไม่คิดที่จะมองใครอีก ......
ผมเคยคิดว่า การมีชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกพ้อง...และคอยเป็นกำลังให้พวกเขา เท่านั้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว
แต่พอได้เจอยัยนี่อีกครั้ง....ความรู้สึกแบบนั้นก็หวนกลับมา
ความรู้สึกที่อยากกอดเก็บใครสักคนไว้กับตัวเอง.....
ความรู้สึกที่อยากทำอะไรเพียงเพื่อคนคนเดียว.....
ราวกับแสงสว่างในใจของเธอ ได้ส่องผ่านมายังหัวใจที่เป็นน้ำแข็งของผม
เธอทำให้มันละลายลงอย่างช้าๆ.....โดยที่ทั้งผมและเธออาจจะไม่ทันได้รู้สึกตัว
แต่ตอนนี้....ยังหรอก มันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะผูกมัดเธอไว้กับผม ….
เพราะผมยังไม่มั่นใจ ว่าจะสามารถปกป้องดูแลเธอคนนี้ได้ตลอดไปไหม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น