Chapter 8
“อ่า....มึนหัวจังเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นนะ” ฉันค่อยๆยันตัวลุกขึ้นจากเตียง
จำได้ว่าเมื่อวานเราอยู่ที่กิลด์นี่นา
.... แล้วเรากลับมานอนอยู่บนเตียงได้ยังไงกันนะ
ฉันค่อยๆมองสำรวจรอบๆห้อง
ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ
เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ...จำไม่เห็นได้เลย
.....เรื่องสุดท้ายที่จำได้ก็แค่...ฉันกำลังนั่งคุยกับคานะ
จ๊อกกกกก
โอ้ยย หิวแฮะ
แล้วก็ปวดหัวด้วย เมื่อวานฉันเอาหัวไปโขกหินมาเหรอไงเนี่ย
ทำไมถึงได้ปวดหัวแบบนี้นะ
ฉันเอามือกุมขมับตัวเอง
ว่าแต่....เมื่อคืนฉันฝันดีเหมือนกันแฮะ
ฝันว่าได้อยู่กับเกรย์ด้วย
ได้ขี่หลัง...ได้จับมือ....ได้กอด....แถมยัง......
นึกถึงตรงนี้ ใบหน้าของฉันก็ร้อนผ่าวอย่างไม่รู้ตัว
…..จูบ......
ช่างเป็นความฝันที่สุดวิเศษจริงๆ
กรี๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส ><”
ฉันค่อยๆลุกจากเตียงอย่างมึนๆเซๆ
โอ้ยยย ทำไมโลกมันหมุนแบบนี้นะ
ก๊อกๆๆๆ
“ขอเข้าไปหน่อยนะจ๊า”
เสียงใสๆดังขึ้นมาจากหน้าประตู
พร้อมกับลูซี่ที่ก้าวเข้ามาในห้องของฉัน
“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะเรนะ”
เธอยิ้มสดใสให้ฉัน
“เอ่อ...จ้ะ”
ฉันยิ้มตอบ
“ปวดหัวมากมั้ยเอ่ย”
“ก็พอตัวอยู่ล่ะจ้ะ
ว่าแต่เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“จำไม่ได้เหรอจ๊ะ
ก็เมื่อวานเรนะน่ะดื่มเหล้ากับคานะ จนสลบเหมือดอยู่ที่กิลด์
แถมยังร้องไห้โวยวายซะใหญ่โต” เธอเล่าไปหัวเราะไป
โอ้ยยยย!! แม่เจ้า
อยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี นี่ฉันทำอะไรลงป๊ายยยย!!
น่าอายจริงๆ T^T
“เกรย์
เค้าฝากให้ฉันมาดูแลเธอ เผื่อว่าตื่นมาแล้วจะปวดหัวมากน่ะจ๊ะ” ลูซี่พูดแล้วเดินไปนั่งลงที่โซฟาข้างเตียงฉัน
“เกรย์เหรอ”
ฉันพึมพำเบาๆ เมื่อได้ยินชื่อของเขาคนนั้น
“อ่า...สงสัยจะจำไม่ได้สินะจ๊ะ
ก็พอเรนะจังเมา ก็ร้องไห้โวยวายใส่เกรย์ใหญ่เลย”
“หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ฉันน่ะเหรอคะ” ฉันเอามือชี้ตัวเอง
แทบไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ลูซี่เล่า
“ใช่จ้ะ ^^”
เธอยิ้ม
“เกรย์ก็เลยพาเธอมาส่งบ้าน
แล้วก็ดูเหมือนจะอยู่เฝ้าเธอทั้งคืนเลยนะ เพราะเขาพึ่งออกไปเมื่อตอนเช้านี่เอง”
“หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ใบหน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นอย่างไร้สาเหตุอีกแล้ว
พระเจ้า!! นี่มันเรื่องอะไรกันคะ
เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นนนน
แว๊กกกกกกกกก
“อ้อ
จริงสิ! บนโต๊ะกินข้าวมีข้าวต้มอยู่แน่ะ เกรย์เค้าฝากบอกฉันว่าถ้าเรนะจังตื่นแล้วให้บังคับเธอให้ทานให้หมดน่ะจ้ะ
เพราะเธอไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
ฉันรีบวิ่งไปที่โต๊ะกินข้าว
ก่อนที่จะเปิดฝาครอบถ้วยแก้วที่ภายในมีข้ามต้มหอมกรุ่นบรรจุอยู่
“ดูเหมือนว่า....เกรย์เขาจะทำเองด้วยนะ”
ลูซี่พูดแล้วยิ้ม
“เกรย์น่ะเหรอ” ฉันพึมพำกับข้าวต้มที่อยู่ตรงหน้า
“ตั้งแต่ฉันรู้จักกับเกรย์มา
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ฉันเห็นเขาทำอะไรให้ใครแบบนี้”
ลูซี่เดินมานั่งตรงข้ามฉันที่โต๊ะกินข้าว ก่อนจะเอามือเท้าคางแล้วนั่งมองฉันทานข้าวต้มฝีมือของเกรย์
ลูซี่เดินมานั่งตรงข้ามฉันที่โต๊ะกินข้าว ก่อนจะเอามือเท้าคางแล้วนั่งมองฉันทานข้าวต้มฝีมือของเกรย์
รสชาติใช้ได้เหมือนกันแฮะ
“ฉันเดาว่า
เรนะกับเกรย์ต้องมีอะไรลึกซึ้งกันแน่เลย ใช่มั้ยล่ะจ๊ะ” ลูซี่แหย่
“อะ....เอ่อ
ไม่หรอกค่ะ” ฉันแทบจะสำลักข้าวต้ม
“ไม่เชื่อหรอก...ฉันดูออกน่า....ทั้งสายตาของเธอแล้วก็เกรย์”
“ไม่หรอกค่ะ
ตอนนี้ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาเองก็คงแค่ทำไปตามหน้าที่
ก็คุณปู่ฝากฉันไว้กับเขานี่คะ” คิดแบบนี้ก็เศร้าเหมือนกันแฮะ
“คิดมากน่า
ไอ้เจ้านั่นน่ะขี้เก๊กไปงั้นแหละ ความจริงฉันว่าเขาก็ห่วงเธอนะ” ลูซี่เอื้อมมือมาจับมือฉัน พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ
“ขอบคุณค่ะ”
ฉันยิ้มตอบ
“ไม่ต้องสุภาพนักก็ได้
เราเป็นเพื่อนกันนะ”
“จ้ะ
ลูซี่”
เป็นอย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ
ที่แฟรี่เทล มีมิตรภาพที่พร้อมหยิบยื่นให้เสมอ....
“แล้วนัทสึไปไหนแล้วล่ะคะ
ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ” ฉันถามถึงนัทสึ
เพราะช่วงนี้ฉันเห็นทั้งสองคนตัวติดกันเป็นตังเม
“เจ้าบ้านั่น
ฉันพึ่งไล่กลับบ้านไป มีอย่างที่ไหน แอบมานอนบนเตียงฉันโดยไม่ได้รับอนุญาติ”
ลูซี่ท่าทางหัวเสีย
“ลูซี่กับนัทสึก็ท่าทางจะมีอะไรที่มากกว่าเพื่อนนะคะ”
ฉันแกล้งแหย่บ้าง
“บ้า!!
พูดอะไรของเธอน่ะ” ลูซี่หน้าแดงแปร้ด ฮ่าๆ
ตลกจัง แล้วเธอก็พูดต่อว่า....
“ไม่มีอะไรหรอก
ฉันกับเขาก็เป็นเพื่อนกันนั่นแหละ อาจจะแค่สนิทกันมากเฉยๆ
ยังไงอีตาซื่อบื้อนั่นก็ไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่านี้อยู่แล้ว”
พอทานข้าวเสร็จ
ฉันก็รีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ก็ก่อนไปลูซี่ทิ้งท้ายไว้ว่า
“อ้อ จริงสิ
เรนะ เกรย์บอกว่า วันนี้ให้เธอเข้าไปหาเขาที่กิลด์ด้วย ไปให้ไวถ้าไม่อยากให้เขาโมโหนะจ๊ะ”
ฉันเลือกเสื้อผ้าชุดที่มั่นใจว่าใส่แล้วดูดีที่สุดออกมาสวม
ก่อนจะรวบผมขึ้นเป็นมวยไว้ด้านหลัง
ไม่อยากจะเชื่อ ....
เกรย์บอกให้ฉันไปหา
T^T พระเจ้า
ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงแบบนี้นะ
เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า
ยัยเรนะ ทำอย่างกับไม่เคยเจอเขาไปได้
เมื่อเช็คความเรียบร้อยของตัวเองผ่านกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้งอยู่สองสามรอบ
ฉันก็คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายก่อนจะเดินสลับวิ่งไปที่กิลด์
สงสัยจัง ว่านายมีอะไรจะพูดกับฉันนะเกรย์
ทันที่ที่ถึงที่หมาย
ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆก็พบว่าเกรย์นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะมุมหนึ่งของกิลด์
น่าแปลก ....
ทำไมวันนี้ไม่เห็นจูเวียอยู่กับเขาล่ะ
“มาแล้วจ้ะ”
ฉันไปยืนหอบตัวโยนอยู่หน้าที่นั่งของเขา
คนตรงหน้าเหลือบมองฉันครู่หนึ่ง
ก่อนจะก้มหน้าลงอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ
ให้ตาย!! จะทักกันหน่อย
ไม่ได้เลยเหรอไงยะ!
“เห็นลูซี่บอกว่า
นายอยากเจอฉัน” ฉันพูดขึ้น หลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา
“แหงสิ
ยัยตัวแสบ” เกรย์วางหนังสือพิมพ์ลงก่อนจะมองหน้าฉันนิ่ง
หา....อะไรหว่า
ยัยตัวแสบงั้นเหรอ = =
“ต่อจากนี้....ถ้าเธอกล้าเอาเหล้าเข้าปากอีกล่ะก็...ฉันจะฆ่าเธอ”
เกรย์พูดเสียงดุ
หยึยยยย
เป็นอะไรของเค้านะ ทำไมอยู่ๆถึงได้เล่นบทโหดแบบนี้
“เป็นผู้หญิง
ใครเค้าเมาแอ๋กันแบบนั้น” คนตรงหน้ากอดอกแล้วส่งสายตาดุๆมาที่ฉัน
เจ้ย!! นี่มันเรื่องอะไรกันง่า ToT
“ก็ทีคานะยังเมาได้เลย”
ฉันเถียง และพยายามหลบตาสายตาดุๆที่ส่งมาของเขา
เฮ้! อย่ามองแบบนั้นมากสิ
เดี๋ยวฉันร้องไห้นะ
“นั่นมันยัยคานะ
ถึงยัยนั่นเมาก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก ... แต่เธอสิ พอเมาแล้ว.....โวยวายลั่นบ้านเลย
ยัย....” เกรย์กันฟันกรอด
โอ้ยยย!! ไม่อยากจะคิดเลยว่าเมื่อคืนฉันทำอะไรเขาไว้บ้าง
“เอ่อ....เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ”
ฉันถามซื่อๆ แต่คนตรงหน้ากลับสะดุ้งโหยง แล้วพูดขึ้นเสียงดังว่า
“ช่างมันเถอะน่า
ยัยขี้เมา ยัยตัวปัญหาเอ้ย!”
ทำไมต้องว่ากันขนาดนี้ด้วยเล่า
คนบ้า T^T
“อะไรล่ะ...ก็ฉันไม่รู้ตัวนี่....งั้นขอโทษแล้วกัน...แล้วก็ขอบคุณมากด้วยที่อุตส่าช่วยดูแลนะคะคุณเกรย์”
ฉันประชด
“ฉันทำไปเพราะมาสเตอร์ฝากเธอไว้กับฉัน”
คนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฉันรู้
ว่านายเป็นผู้ใช้เวทย์น้ำแข็ง แต่นายจำเป็นต้องเย็นชาเหมือนน้ำแข็งด้วยเหรอไงห๊ะ!!
ก็ใช่สิ! ถ้าไม่ใช่เพราะปู่ มีเหรอ
เขาจะมาสนใจตัวปัญหาอย่างฉัน
เชอะ!! เดี๋ยวจะงอนให้ตายเลย อีตาบ้า! (<<<< ทำเหมือนเค้าจะสนใจ)
“งั้นเหรอ....ถึงยังไงก็ขอบใจนะ....ขอโทษที่เป็นภาระให้นายแล้วกัน
ต่อไปฉันจะระวัง”
ยอมรับว่าน้อยใจนะ...แต่มันก็แค่นิดนึงนั่นแหละ...ฉันชินซะแล้ว
พูดจบฉันก็ลุกจากเก้าอี้เตรียมที่จะเดินไปจากตรงนั้น
แต่ก่อนที่ฉันจะได้เดินไปไหน เกรย์ก็ขัดขึ้นว่า
“ไปเตรียมตัวซะ”
เขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ฉัน
ฉันรับกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านอย่างงงๆ
“หืมมม
อะไรเนี่ย
ภารกิจบุกทำลายฐานลับของกลุ่มกองโจร เงินรางวัล 7 แสนจีเวล”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองเกรย์เพื่อหาคำตอบ
“เราจะไปทำภารกิจนี้กันเหรอ”
ฉันชูกระดาษนั่นให้เกรย์ดู
“ใช่ ฉัน
กับ เธอ” เกรย์พูดช้าๆชัดๆ
“หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
////////
อีกด้านหนึ่งของกิลด์ //////////////
“กาซีล
กาซีล กาซีล” เสียงเล็กๆดังขึ้น
“หนวกหูจริงยัยเปี๊ยก”
มังกรเหล็กกาซีลที่กำลังหยิบเศษเหล็กเข้าปาก
ทำท่าไม่สบอารมณ์กับเสียงเล็กๆของผู้หญิงตรงหน้า
“ก็นายไม่ฟังที่ฉันพูดเลยนี่นา”
เธอเอามือเท้าเอว แล้วทำหน้าบูด
“จะให้ฟังอะไร
ก็เห็นเธอเอาแต่โวยวาย หนวกหูจะตาย”
“ฉันบอกว่า
อย่าไปทำงานนี้เลย มันเสี่ยงเกินไปนะ” คนตัวเล็กเอามือทุบโต๊ะ
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่เงินดี”
กาซีลค้านห้วนๆ
“แต่มันไม่ปลอดภัยรู้มั้ย.....นายไม่ไปไม่ได้เหรอ”
คนตัวเล็กยังคงไม่ยอมแพ้
“น่ารำคาญจริงๆ...เธอเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ยเลวี่”
กาซีลเอามือแคะหูตัวเอง
“ขอร้องล่ะ
อย่าไปเลยนะ” เลวี่ก้มหน้าพลางพูดเสียงสั่น ทำให้เจ้ามังกรเหล็กมองเธออย่างไม่เข้าใจ
ให้ตาย....ยัยนี่เป็นอะไรนักหนา
นั่นคือสิ่งที่เขาคิด
“ไหนลองบอกเหตุผลมาสิ”
เขาเอ่ย ทำให้เลวี่เงยหน้ามองเขา
“เหตุผลที่ว่าทำไมฉันไม่ควรไป”
“เพราะ....ก็เพราะว่า...เอ่อ....มันไกลน่ะสิ....ละ...แล้วก็
น่าจะอันตรายมาก” เธอพูดตะกุกตะกัก
“ไร้สาระ
... แค่นี้น่ะเหรอ เห้อ....ไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ” กาซีลถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“ไม่ต้องพูดมากแล้ว
ยังไงฉันก็จะไป ... ไม่ต้องโวยวาย เพราะฉันหนวกหู” คำพูดห่ามๆของเขา
ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับน้ำตาเอ่อ
“ใช่สิคนบ้า!!
นายมันจะไปรู้อะไร” เธอออกแรงผลักเขาอย่างแรง
เล่นเอาคนที่ไม่ได้ตั้งตัว ถึงกับล้มลงไปกองกับพื้น
“จะให้ฉันพูดใช่มั้ยว่าไม่อยากให้นายหายไปไหนนานๆ
.... ใช่สิ....ถึงจะไม่ได้เจอกัน...นายก็ไม่เป็นไรหรอก” เลวี่พูดเสียงดังและรัวเป็นชุด
กาซีลตกใจกับอาการของเลวี่ไม่น้อย
เพราะปกติแล้วยัยนี่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใคร แต่อยู่ๆก็มาระเบิดใส่เขาเพียงเพราะเขาต้องไปทำภารกิจในที่ไกลๆเนี่ยนะ
“กาซีล
ไอ้คนบ้า!! นายอยากจะไปไหนก็เชิญ!!” พูดจบเธอก็วิ่งออกไปทางประตูใหญ่ของกิลด์
เพื่อนในกิลด์หลายคน
รวมถึงเจ็ทและดรอย ก็ตะโกนไล่หลังเธอไป แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดเธอไว้ได้เลย
ส่วนตัวการของเรื่องทั้งหมด
กลับนั่งงงไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาทั้งนั้น
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ”
กาซีลเกาหัวอย่างงงๆ
หรือว่า
ดราก้อนสเลเยอร์ จะซื่อบื้อเหมือนกันหมดนะ.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น