Chapter 7
สุดท้ายผมก็ต้องรับภาระแบกยัยนี่กลับบ้าน
.... ให้ตายเถอะ!! เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้
เรนะก็ตัวหนักใช่ย่อยเลยนะ
“โคนนนจายร้ายย”
ยัยนั่นโวยวายออกมาเป็นพักๆ อย่างนี้มาตลอดทางเลยครับ
“คนเค้าอุตส่าแบกเธอกลับบ้าน
ยังจะมาว่ากันอีกเหรอ” ผมบ่นบ้าง
คนใจร้ายที่ยัยนั่นพูดถึง
ไม่ใช่ใครอื่น ... ผมคนนี้นี่ล่ะ
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะใจร้ายกับเธอหรอกนะ”
ผมกระชับแขนที่ใช้แบกร่างคนที่อยู่บนหลังให้ถนัดขึ้น
“ถ้าโวยวายมาก...ฉันเผลอทำหล่นไปไม่รู้ด้วยนะยัยต๊อง”
พอต้องแบกยัยนึ่ขึ้นหลังแบบนี้
ก็นึกถึงเมื่อก่อนแฮะ
//////////// ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน /////////////
วันนี้เป็นวันที่ผมออกมาทำภารกิจเป็นครั้งแรก
งานของผมก็คือ ช่วยชาวบ้านที่นี่ ขึ้นมาเก็บสมุนไพรวิเศษบนเขา
ดูเหมือนว่า มันจะเป็นงานที่ยากพอสมควรสำหรับเด็กอายุ 12 ขวบ แต่ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับจอมเวทย์น้ำแข็งอายุ 12 ขวบอย่างผม
ดูเหมือนว่า มันจะเป็นงานที่ยากพอสมควรสำหรับเด็กอายุ 12 ขวบ แต่ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับจอมเวทย์น้ำแข็งอายุ 12 ขวบอย่างผม
“ขอโทษนะเกรย์
... เพราะฉันวุ่นวายอยากตามมาด้วยเลยต้องลำบากนายเลย” ยัยเรนะที่ตอนนี้ทำหน้าหงอยอยู่บนหลังผมพูดเสียงอ่อย
ไม่มีอะไรมากหรอกครับ
ยัยตัวยุ่งเรนะ แค่งอแงขอตามผมมาทำภารกิจแรกด้วยกันเท่านั้น ผมเองก็ใจไม่แข็งพอ
ที่จะปฎิเสธสายตาอ้อนๆของเธอซะด้วย ทุกอย่างในวันนี้ราบรื่นไปด้วยดี เว้นก็แต่ขาลงจากเขา
ยัยนี่ดันไปสะดุดรากไม้จนลื่นล้ม ขาแพลง
เป็นเหตุให้ผมต้องแบกเธอขึ้นหลังอยู่แบบนี้
“ฉันชินซะแล้ว
เธอมันก็ซุ่มซ่ามแบบนี้ประจำแหละยัยต๊อง” ผมพูดไปหัวเราะไป
“คนบ้า
ใจร้ายที่สุดเลย” ยัยนั่นเอื้อมมือมาดึงแก้มผม
“โอ้ย
เจ็บนะ” ผมแกล้งร้อง
“สม”
“เกิดแก้มฉันย้วย
โตขึ้นไปหาแฟนไม่ได้จะทำยังไง” ผมแกล้งแหย่ยัยจอมยุ่ง
“ก็ดีสิ
นายจะได้อยู่กับฉันตลอดไปไง” พูดจบยัยนั่นก็ซบหน้าลงกับไหล่ผม
ยอมรับเลย ...
ว่าผมรู้สึกดีมาก เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้
“ถ้าฉันแข็งแรงดีเมื่อไหร่
จะขอคุณปู่เข้าแฟรี่เทลล่ะ นายคิดว่าไง”
ใช่ครับ
ตอนนี้ร่างกายของยัยนี่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เรียกได้ว่า สามวันดีสี่วันไข้เลยล่ะ
ยัยนี่เลยต้องอยู่แต่กับบ้าน ไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นที่ไหนกับใครเค้า
จะมีก็แต่พวกเพื่อนๆที่แฟรี่เทล ที่แวะเวียนไปหาเธอที่บ้านของมาสเตอร์เท่านั้น
ส่วนวันนี้ ยัยนี่ก็รบเร้าให้ผมพามาด้วย
ถ้ามาสเตอร์รู้เข้ามีหวังผมโดนสวดยาวแน่ๆ
“ก็ดีสิ”
“เนอะ”
ยัยนั่นเอาแก้มตัวเองมาแตะกับแก้มของผม
“แล้วเธอใช้เวทย์มนต์เป็นเหรอ” ผมถาม
“ไม่เห็นจะยากเลย
ก็ให้คุณปู่ ไม่ก็ฟรีด พี่ลักซัส เอลซ่า ใครก็ได้สอนฉันสิ คนจะเป็นอาจารย์ฉันเยอะแยะไป”
“หรือเกรย์จะสอนฉันก็ได้นะ
อะไรน้า ไอซ์เมกแลนช์ ใช่ปะ” ยัยนั่นทำท่าเลียนแบบผม
เล่นเอาผมขำยกใหญ่
“เวทย์น้ำแข็งไม่ได้เรียนกันง่ายๆนะยัยต๊อง”
“เกรย์ก็สอนฉันสิ”
ยัยนั่นรบเร้า
“ไว้คิดดูได้มั้ย”
“คิดตอนนี้เลยสิ
น๊าๆ” เรนะอ้อน
“อื้มมมม....แต่จะเรียนเวทย์น้ำแข็ง
ต้องไปเรียนที่ป่าหิมะทางตอนเหนือของประเทศนู่น เธอจะไปกับฉันเหรอ”
“ไปสิ ไป
เกรย์อยู่ที่ไหน ฉันก็จะอยู่ที่นั่นล่ะ” เรนะพูดอย่างกระตือรือร้น
นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผมยิ้มไม่หยุด
“อื้มมมม
แต่เวทย์น้ำแข็ง เวลาเรียนต้องถอดเสื้อผ้าหมดเหลือแต่ชุดชั้นในนะ จะไหวเหรอ”
ผมแกล้งพูด
“อีตาบ้า!!
นายคิดอะไรลามกอยู่หรือเปล่าฮะ” ยัยนั่นดึงหูผม
“โอ้ยยยยย
เดี๋ยวหู เดี๋ยวแก้ม อยู่กับเธอตัวฉันช้ำหมดพอดี” ผมเอามือลูบหูตัวเองป้อยๆ
“ก็ใครใช้ให้นายทะลึ่งกับฉันล่ะยะ”
ยัยนั่นแยกเขี้ยวใส่ผม
“เห้ยย
ฉันเปล่าทะลึ่งนะ เวลาเรียนมันต้องทำแบบนั้นจริงๆ อุลที่เป็นอาจารย์ฉันสอนมา
เราถอดเสื้อผ้า เพื่อจะได้คุ้นเคยกับความหนาวเย็นไง” ผมอธิบาย
นี่มันเป็นเรื่องจริงนะครับ
ทุกคนเชื่อผมใช่มั้ยเนี่ย = =
ผมไม่ใช่ไอ้หื่นกาม หรือ โรคจิตนะ
ผมไม่ใช่ไอ้หื่นกาม หรือ โรคจิตนะ
“อ๋อ
ถึงว่า นายถึงชอบโป๊ท่อนบนไม่เลือกที่”
“แหมม
มันเผลอนิดนึงเอง” ผมหัวเราะ
“ไม่นิดล่ะย่ะ”
ยัยนั่นแว้ดใส่หูผม
“ถ้าฉันได้เข้ากิลด์เมื่อไหร่
เราไปทำภารกิจด้วยกันนะ” ยัยนั่นพูดต่อ
“มันแน่อยู่แล้ว”
“สัญญานะเกรย์”
ยัยนั่นยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผม
“แน่นอน”
ผมรับปากพลางยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับเธอ ก่อนจะพูดว่า
“ฉันจะปล่อยให้คนโก๊ะๆอย่างเธอไปไหนมาไหนคนเดียวได้ยังไง
คิดดู ขนาดรากไม้มันอยู่ดีๆ ยังไปเดินเตะมันได้อะ”
“นี่เกรย์!!”
ยัยนั่นโวยวายขึ้นทันที
“อะไรยัยซุ่มซ่าม”
ผมแกล้งคนที่อยู่บนหลัง
“คนบ้า!!”
ยัยนั่นทุบไหล่ผมดังอั้กๆ
ผู้หญิงอะไร นอกจากตัวจะเล็กแล้ว
ยังขี้โวยวาย งอแง เสียงก็แหลม แถมยังมือหนักอีกตะหาก
โอ้ยยย เจ็บเป็นบ้า
ไหล่ผมจะหักมั้ย T^T
/////////// กลับมาปัจจุบัน
//////////////
คิดถึงเมื่อก่อนจังเลยนะ
ไปทำภารกิจด้วยกันงั้นเหรอ ....
คำสัญญาของเรา
ฉันไม่เคยลืมหรอกนะ
ผมแบกยัยเรนะไปตามทางเดินเลียบแม่น้ำสายหลักของเมืองแมกโนเลีย
นี่ก็เกือบเย็นแล้ว ยัยนี่จะตื่นมาทานอะไรไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้
เห้อออ ทำไมถึงได้ขยันทำให้ผมเป็นห่วงจังเลยนะ
“เกรย์....”
อยู่ๆยัยนั่นก็เรียกชื่อผม
ละเมอเหรอไงห๊ะ = =
ผมไม่พูดอะไร
เพียงแต่เร่งฝีเท้าเพื่อให้ถึงบ้านเช่าของเธอให้ไวที่สุด
ผมว่ายัยนี่น่าจะได้นอนบนเตียงนิ่มๆ
ดีกว่าที่จะมาหลับคาแผ่นหลังของผมนะ (<<<< เปล่าหรอก ความจริงเกรย์มันหนัก
จนทนไม่ไหวแล้วตะหาก :: คนเขียน)
ไม่นานนัก
ผมก็พายัยนี่มานอนบนเตียงของเธอได้สำเร็จ
โอ้ยย ปวดหลัง
ปวดไหล่ชะมัด
นี่ฉันแก่แล้ว
หรือยัยนี่หนักขึ้นกันนะ ไม่เห็นเหมือนเมื่อก่อนเลย
ผมนั่งลงบนโซฟาข้างๆเตียงของเธอ
“โคนนนนจายยยร้าย” อยู่ๆยัยนั่นก็โวยวายขึ้นมาอีก
“เอ้อ ใจร้ายแต่ก็แบกเธอมาส่งถึงห้องแล้วกันเฟ้ย” ผมเถียงกับคนเมา
“แต่แค่ตอนนี้เท่านั้น ฉันจะใจดีกับเธอเป็นพิเศษก็ได้” ผมพึมพำกับตัวเอง
“เกรย์....” คนบนเตียงเรียกชื่อผม ทั้งๆที่ยังหลับตา
“หือ?”
“อย่าไปนะเกรย์”
มือของเธอไขว่คว้าหาอะไรบางอย่าง ซึ่งผมเดาเอาเองว่าคงเป็นมือของผม ผมจึงขยับโซฟาไปนั่งใกล้ๆเตียงของเธอ แล้วยื่นมือไปให้เธอจับ เรนะคว้ามือของผมไปกอดไว้แน่น
มือของเธอไขว่คว้าหาอะไรบางอย่าง ซึ่งผมเดาเอาเองว่าคงเป็นมือของผม ผมจึงขยับโซฟาไปนั่งใกล้ๆเตียงของเธอ แล้วยื่นมือไปให้เธอจับ เรนะคว้ามือของผมไปกอดไว้แน่น
“ฉันไม่หายไปไหนหรอกน่า” ผมพูดเบาๆ
แล้วเอามือลูบหัวยัยตัวยุ่งของผม
ท่าทางพรุ่งนี้ตื่นมา คงแฮงก์ใช่ย่อยเลย ดูสิ ขนาดตอนนอนยังจะทำคิ้วขมวดอีก
ผมนั่งพิจารณาใบหน้าของยัยแสบที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนเตียง
ผมนั่งพิจารณาใบหน้าของยัยแสบที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนเตียง
นานแล้ว...ที่ผมไม่ได้มองใบหน้าของเธอชัดๆแบบนี้
เธอโตขึ้นมาก ... แต่จมูกรั้นๆและริมฝีปากสวยๆนั่นยังคงเหมือนเดิม
เธอโตขึ้นมาก ... แต่จมูกรั้นๆและริมฝีปากสวยๆนั่นยังคงเหมือนเดิม
ผมค่อยๆไล้มือไปบนเส้นผมของเธอ ... มันเป็นสีที่ผมรู้สึกว่าเข้ากับเธอได้เป็นอย่างดี
นี่มันกี่ปีกันแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน ถ้ารวมเวลาที่ติดอยู่ที่เทนโรด้วยก็เกือบ 12 ปี ใช่หรือเปล่า.....
นี่มันกี่ปีกันแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน ถ้ารวมเวลาที่ติดอยู่ที่เทนโรด้วยก็เกือบ 12 ปี ใช่หรือเปล่า.....
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างนะ
เวลาที่ไม่มีฉันอยู่ข้างๆ เธอยังซุ่มซ่ามแล้วทำให้ตัวเองเจ็บตัวเหมือนเดิมหรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่นะ เพราะถ้าเธอเกิดขาแพลงขึ้นมาอีก คงไม่มีใครให้เธอขี่หลังใช่มั้ยล่ะ
เวลาที่ไม่มีฉันอยู่ข้างๆ เธอยังซุ่มซ่ามแล้วทำให้ตัวเองเจ็บตัวเหมือนเดิมหรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่นะ เพราะถ้าเธอเกิดขาแพลงขึ้นมาอีก คงไม่มีใครให้เธอขี่หลังใช่มั้ยล่ะ
“ตอนนั้น ที่เฟรย่ามาช่วยไว้ …. เพราะฉันพยายามจะฆ่าตัวตายน่ะ”
คำพูดเมื่อวันก่อนของเธอลอยเข้ามาในหัวผม
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เธอคิดจะทำเรื่องแบบนั้นนะ
ถ้าสาเหตุนั่นมาจากผมล่ะก็ .... ผมคงไม่ให้อภัยตัวเองอีกเลย
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เธอคิดจะทำเรื่องแบบนั้นนะ
ถ้าสาเหตุนั่นมาจากผมล่ะก็ .... ผมคงไม่ให้อภัยตัวเองอีกเลย
“เกรย์!!!”
อยู่ๆยัยนั่นก็ลุกพรวดขึ้น ทำเอาผมสะดุ้งโหยง แทบจะปรับโหมดกลับไปเป็นไอ้เกรย์ที่แสนเย็นชาไม่ทัน
อยู่ๆยัยนั่นก็ลุกพรวดขึ้น ทำเอาผมสะดุ้งโหยง แทบจะปรับโหมดกลับไปเป็นไอ้เกรย์ที่แสนเย็นชาไม่ทัน
“ตอบช้านนนมาเดี๋ยวเน้นะ!!” ยัยนั่นตรงเข้ามากระชากคอเสื้อผม
เห้ยยยย !! อะไรสิงเธอเนี่ย
“อะไรของเธอ” ผมพูดนิ่งๆ พยายามรักษามาดน้ำแข็งที่แสนเย็นชาเอาไว้
“ตอบช้านมาเดี๋ยวเน้ นายกาบจูเวียเป็นอารายยยกานนนนห๊า!!”
ยัยขี้โวยวายพยายามตะโกนใส่หน้าผม แต่ตัวเองก็แทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่ เล่นทำตัวโงนเงนไป โงนเงนมา จนผมต้องช่วยพยุงไว้
ยัยขี้โวยวายพยายามตะโกนใส่หน้าผม แต่ตัวเองก็แทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่ เล่นทำตัวโงนเงนไป โงนเงนมา จนผมต้องช่วยพยุงไว้
ยัยนี่ละเมอเหรอ?
“ตอบมาเซ่!! นายชอบจูเวียช่ายม้าย”
“พูดอะไรของเธอ” ผมพยายามแกะมือที่ดึงคอเสื้อผมไว้ออก
แต่มือยัยนี่เหนียวเป็นบ้า
“ช้านถามว่าช่ายม้ายยงายล่าวว”
ยัยนี่ ! ไปได้ยินมาจากไหนว่าผมชอบจูเวีย
“จาอารายก็ด้ายยย ช้านรับด้ายท้างน้านนน ขอแค่เพียงมานนออกมาจากปากของนายย”
ยัยนั่นโงนเงนก่อนที่จะปล่อยคอเสื้อผมแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงดังตุ้บ!!
ยัยนั่นโงนเงนก่อนที่จะปล่อยคอเสื้อผมแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงดังตุ้บ!!
“ช้านเตรียมจายว้ายแล้ว พูดมาเลย!” ยัยนั่นเอามือตบอกตัวเอง
แมนซะไม่มีล่ะเธอ = =
“พูดมาเร็วๆเซ่” เรนะเอามือมาดันหน้าอกผม ผมจึงจับมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้
“เธอเมามากแล้วนอนเถอะ” ผมพยายามจะดันตัวเธอให้ลงนอนเหมือนเดิม
แต่เธอขืนตัวเอาไว้
“ม่ายยยยยย ช้านไม่มาววว” ยัยคนเมาโวยวายต่อ
“นายน่านนแหละมาวว”
“คร้าบๆๆ ผมเมาคร้าบ”
ผมล่ะเหนื่อยกับยัยขี้เมานี่จริง (=_=;)))
“นายน่านแหละมานอน”
ยัยนั่นพยายามดึงผมขึ้นเตียง ผมเองต้องขืนตัวเองไว้สุดแรงเกิด ยัยนี่ตอนเมา แรงเยอะไปมั้ย
ยัยนั่นพยายามดึงผมขึ้นเตียง ผมเองต้องขืนตัวเองไว้สุดแรงเกิด ยัยนี่ตอนเมา แรงเยอะไปมั้ย
โอ้ยยย จะโดนคนเมาปล้ำมั้ยวะครับเนี่ย T^T
ยัยนั่นดูเหมือนจะหมดแรงแล้ว เลยปล่อยมือผม แล้วก็นั่งนิ่งไปพักหนึ่ง
โห๊ะๆๆ รอดแล้วผม (≧∇≦)
“คาน้า....” อยู่ๆยัยเรนะก็สะอึกสะอื้นขึ้น
“โว้ยย เป็นอะไรอีกวะเนี่ย”
ผมไม่ชอบน้ำตาของยัยนี่ ใครก็ได้หยุดเธอที
“คาน้า....รู้อารายม้าย....ฮึกกก.....ฉันหน่ะ....ฮึก....ชอบเกรย์มากเลยน๊า...ฮึก
ฮึก ....แต่ดูเหมือนว่าเขา....จาชอบคนอื่นซ๊าแล้วล่า ฮืออออ” ยัยนั่นปล่อยโฮออกมาอีกแล้ว
ว๊ากกกก มันอะไรกันนักหนาวะเนี่ยวันนี้ = =
สาบานได้ว่าผมจะไม่ให้เหล้าเข้าปากยัยนี่อีกเป็นครั้งที่ 2
ว่าแต่นี่เธอจะบอกรักฉันทั้งที ... ช่วยบอกในสภาพที่ดีกว่านี้ได้มั้ยห๊ะ!!
ถึงผมจะรู้อยู่แก่ใจ ว่ายัยนี่คิดยังไงกับผม
แต่ผมก็ไม่รังเกียจหรอกนะ ที่ยัยนี่จะมาพูดว่ารักมาชอบผม
เอาจริงๆแล้วคือ ผมออกจะชอบให้เธอทำแบบนี้ด้วยซ้ำ
ถึงผมจะรู้อยู่แก่ใจ ว่ายัยนี่คิดยังไงกับผม
แต่ผมก็ไม่รังเกียจหรอกนะ ที่ยัยนี่จะมาพูดว่ารักมาชอบผม
เอาจริงๆแล้วคือ ผมออกจะชอบให้เธอทำแบบนี้ด้วยซ้ำ
แล้วพูดบ้าอะไรของเธอ....ผมไปชอบอะไรใครที่ไหน บ้าไปแล้ว!
“หยุดร้องไห้สักที” ผมพูดขึ้น
“ก้อมันเศร้านี่คาน๊า....เกรย์ไม่โสนใจช้าน...เค้าโสนจายแต่คนอื่น...โสนใจแต่จูเวีย”
“เธอรู้ได้ยังไง”
“ถ้าเค้าโสนใจช้านบ้าง...เค้าก็โคงยิ้มให้ช้านน
เหมือนที่ยิ้มให้จูเวียแล้วช่ายม๊ายยล่าว ฮืออออ” ยัยนั่นปล่อยโฮออกมาอีก ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะหนักกว่าครั้งไหนๆ
ไหล่ของยัยนั่นสั่นไม่หยุด น้ำตาก็ไหลออกมาไม่ขาดสายเหมือนกัน
นี่ฉัน....ทำให้เธอร้องไห้อีกแล้วเหรอเรนะ
พอแล้ว.... ฉันไม่ชอบน้ำตาของเธอเลย
ผมดึงยัยนั่นเข้ามากอด ก่อนจะค่อยๆเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาให้เธอ
“ถึงฉันจะไม่ยิ้มให้...ก็ไม่ได้แปลว่าฉันไม่สนใจ....ถึงฉันจะนิ่งเฉย...ก็ไม่ได้แปลว่าฉันไม่เป็นห่วง....ถึงฉันจะไม่ได้พูดอะไร....ก็ไม่ได้แปลว่าฉันไม่คิดถึงเธอ”
ผมกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก
“ฉันขอโทษกับทุกอย่างที่ผ่านมา .... ความจริงแล้วฉันอยากกอดเธอเหลือเกิน
.... แต่ฉันมันเป็นคนขี้ขลาด ที่ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะปกป้องคนที่รัก” ผมกระซิบข้างๆหูเธอ
“ขอแค่ตอนนี้....แค่ตอนนี้เท่านั้น...ให้ฉันทำตามใจของตัวเองบ้างได้มั้ย”
ผมค่อยๆผละออกจากเธอ ก่อนจะประทับริมฝีปากของผมลงไปบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ
รสจูบของเธอ ผสมกับกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้ง มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ
ผมค่อยๆผละจากเรนะอย่างอ้อยอิ่ง .....
น่าแปลกที่ผมไม่อยากให้ช่วงเวลานี้ ผ่านไปเลย
น่าแปลกที่ผมไม่อยากให้ช่วงเวลานี้ ผ่านไปเลย
“เกรย์” ยัยนั่นดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น
ผมเองก็ไม่ได้ขัดขืน เพียงแต่พูดกับเธอว่า
“ฉันเห็นแก่ตัวใช่มั้ย....ที่มากล้าพูดตอนเธอเมา”
ผมรู้ว่าเธอไม่ได้สติ ... ผมเลยกล้าทำแบบนี้ ...
กล้าแหกกฎทุกอย่างที่ตัวผมตั้งขึ้น
“เกรย์…” ยัยนั่นค่อยๆผละจากผม แล้วมองตาผมนิ่ง
ผมเองก็มองเธองงๆ ก่อนที่จะนึกอะไรได้
เห้ยยยย!! อย่าบอกนะว่าเธอสร่างเมาแล้ว
แล้วก็มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนน่ะ
ว๊ากกกกกกกกกก!! ไอ้บ้าเกรย์ แกทำอะไรลงไป๊!!
“ฉะ....ฉันนน” เรนะทำหน้าปั้นยาก
“เดี๋ยวว! เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” ผมรีบหลบตาเธอ รู้สึกได้ว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว
“แต่ว่าฉัน....”
“บอกว่าไม่ต้องพูดไง!” ผมหันไปสั่งเธอ
“ฉันจะอ้วกก!! โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
สิ้นเสียงของเธอ ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และไม่รู้มื้อไหนอีกไม่รู้ของเธอ
ก็พุ่งออกมาสู่ตักของผมอย่างสวยงาม
อาเมนนนนน!! = =
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!! นี่เธอทำอะไรน่ะยัยบ้า!!”
ผมลุกพรวดพราดขึ้นทันใด
แหวะ!! เหม็นไปทั้งตัวแล้วอะ T^T
ยัยตัวต้นเหตุไม่พูดอะไรต่อ พอปล่อยของเก่าออกมา ก็ล้มตัวลงนอน
หลับตาพริ้ม ทำหน้าฝันหวานต่อไป.....
มันน่ามั้ยยยยยยยยยยยย!!?
ยัยตัวแสบ!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น