วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

[FIC] Fairy Tail :: Let Melt The Ice - Chapter 2 :: ช่วงเวลาที่หายไป



Chapter 2


ในที่สุดฉันกับเกรย์ก็ได้อยู่กันตามลำพัง ... คงต้องขอบคุณเอลจังสินะ งานนี้

เราเดินไปตามถนนเรียบแม่น้ำ ที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก ฉันเดินตามหลังเกรย์ โดยที่ฉันคิดว่าเค้าเอง ก็คงพยายามก้าวสั้นๆเพื่อให้ฉันเดินตามทัน แต่ถึงอย่างนั้นบางทีฉันก็ต้องเดินสลับวิ่งเพื่อให้ทันกับช่วงขายาวๆที่ก้าวเอาๆของเขา

เกรย์โตขึ้นมาก เด็กหนุ่มที่ฉันเคยรู้จัก ตอนนี้กลายเป็นผู้ชายเต็มตัวแล้วสินะ

ถึงแม้ฉันจะอยากกอดเขา แล้วพูดว่าคิดถึงมากมายแค่ไหน นับตั้งแต่วันที่เราไม่ได้เจอกัน นี่มันปาเข้าไปกี่ปีแล้วนะ มากกว่า 10 ปีอีกมั้งเนี่ย ...
แต่ดูเหมือนว่า ระหว่างเรา จะเกิดช่องว่าง ที่ไม่อาจจะก้าวข้ามไปได้ง่ายๆแล้วล่ะ ....หรือถ้าจะคิดให้ดีๆ เกรย์อาจจะเกลียดฉันแล้วก็ได้ล่ะมั้ง

อย่าว่าแต่กอด แล้วพูดว่าคิดถึงเลย แค่พูดกัน นับตั้งแต่ฉันกลับมานี่ นับคำได้เลยหล่ะมั้ง

แบบนี้มันน่าอึดอัดเกินไปแล้วนะ!!
ถ้าโกรธหรือเกลียดฉันมากล่ะก็ .... พูดมาสิ!!
ไล่ฉันไป อย่างที่นายเคยทำก็ได้ ไม่ใช่นิ่งเฉยใส่กันแบบนี้ ....

เกรย์!” ฉันตัดสินใจทำลายความเงียบระหว่างเราขึ้น
ร่างสูงตรงหน้าหยุดเดิน ไม่แม้แต่จะพูดอะไร หรือไม่แม้แต่จะหันมามองฉัน

หันมามองหน้าฉันเดี๋ยวนี้ ฉันออกคำสั่ง คำสั่งที่ดูเอาแต่ใจเหมือนสมัยก่อน ... สมัยที่เขายังเป็นเกรย์ของฉัน
คนตรงหน้าไม่เพียงไม่หันมามอง เขากลับก้าวเดินเร็วๆจากไป

ฉันต้องการรู้ความจริงจากปากของนาย .... ความจริงที่ว่านายเกลียดฉันแล้ว หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้ามันออกมาจากปากของนาย ฉันว่า...ฉันยอมรับได้ทุกอย่าง เหมือนตอนนั้นที่นายบอกให้ฉันหายไปยังไงล่ะ

เกรย์!!” ฉันตะโกนเรียกเขา ก่อนจะวิ่งไปดักหน้าคนเย็นชา
ฉันมีเรื่องสำคัญ ที่จำเป็นต้องพูดกับนาย ฉันใช้มือยันหน้าอกคนตรงหน้าไว้ เป็นเชิงห้ามไม่ให้เขาขยับไปไหน

ว่า?” น้ำเสียงของนาย เย็นชากว่าหน้านายอีกนะ คนบ้า ให้ตายเถอะ!
ไม่ว่าอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันส่งสายตาไม่ยอมแพ้ไปให้เขา คนตรงหน้าถอนหายใจนิดนึง ก่อนจะพูดว่า
เธอ...กลับมาที่นี่ทำไม

ราวกับถูกฟ้าผ่า ... ฉันกำมือตัวเองไว้แน่น
ทั้งที่ฉันเฝ้าคิดถึงนายทุกคืนวัน แต่ประโยคยาวๆประโยคแรกที่นายพูดกับฉัน คือประโยคนี้น่ะเหรอ

ฉันรู้...เกรย์...
ฉันรู้ดีว่านายเกลียดฉัน...แค่เห็นหน้าฉัน มันก็ทำให้นายไม่พอใจได้แล้ว ใช่มั้ยล่ะ? ...

แล้วนี่ฉันยังจะบ้ารู้สึกอย่างนั้นกับนาย ... ทั้งๆที่ระหว่างเราไม่มีทางกลับไปเป็นแบบเมื่อก่อนได้แล้ว ... แต่ฉันกลับปฎิเสธหัวใจของตัวเอง ที่มันเรียกหาแต่นายไม่ได้สักที
ทำไม ทำไม ทำไม

ฉันสะกดกลั้นน้ำตาและความเสียใจที่พรั่งพรูขึ้นมา ก่อนจะกลั้นใจตอบไปว่า

นายอยากรู้จริงๆเหรอเกรย์...อยากรู้จริงๆเหรอว่าทำไม...ทำไมถึงฉันกลับมายืนอยู่ตรงหน้านายอีกครั้ง
ฉันก้มหน้าลง เพื่อหลบสายตาคนตรงหน้า พยายามอย่างเต็มที่ ไม่ให้ผู้ชายคนนี้ได้เห็นด้านที่อ่อนแอของตัวฉันอีก พยายามอย่างเต็มที่ไม่ให้สะอึกสะอื้นออกมา

เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันกลับมา
ฉันใช้นิ้วชี้ไปยังคนตรงหน้า และเลือกที่จะใช้ปลายนิ้วสัมผัสตรงตำแหน่งที่ฉันมั่นใจว่ามีหัวใจของเขาที่ถูกล็อกด้วยแม่กุญแจน้ำแข็ง ที่ฉันไม่อาจทำลายได้อยู่ภายใน
เพราะนาย
ฉันก้มหน้าเอามือป้ายหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกไป แล้วควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น

ฉันแค่อยากรู้...เพราะเวลามันผ่านมาตั้งเป็นสิบปีแล้ว...ฉันอยากรู้ว่าเกรย์เกลียดฉันน้อยลงบ้างรึยัง ยังอยากผลักไสให้ฉันไปไกลๆอยู่มั้ย
ความพยายาม และความอดกลั้นทั้งหมดดูเหมือนจะหมดลง เมื่อฉันนึกถึงความจริงที่ว่า
แต่ดูเหมือนว่าฉันจะรู้คำตอบแล้วล่ะ ฉันเงยหน้ามองคนตรงหน้า แล้วยิ้มให้ทั้งน้ำตา

หมดหน้าที่ของนายแล้ว ไม่ต้องลำบากใจ พาฉันไปหาบ้านเช่าหรอก ฉันรู้ว่าการอยู่กับฉัน มันกวนใจนายมาก นายกลับไปที่กิลด์เถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกเอลจัง จากตรงนี้ฉันว่าฉันหาทางไปเองได้ ขอบคุณนายมากนะ ฉันพูดเร็วและรัวจนแทบไม่หายใจ ไหล่สั่นไม่หยุด เพราะแรงสะอื้นที่กลั้นไว้

ฉันคงคิดไปเองที่เห็นเกรย์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นน้ำตาของฉัน
ตอนนี้สิ่งที่ฉันเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือดวงตาที่ว่างเปล่าและเฉยชาของเขาคนนี้ คนที่ฉันรักหมดหัวใจ

แล้วฉันจะพยายาม ไม่ไปกวนใจนายอีกนะ เกรย์ ฉันหันหลังให้เขาแล้วเดินจากไป
ความรู้สึกตอนนี้มันทั้งเจ็บปวด ทั้งทรมาน จนอยากจะหายไปจากโลกนี้จริงๆ

การไม่ได้เห็นหน้านายตลอดหลายปีมานี้ มันทำให้ฉันทรมาน  แต่การที่ได้พบนาย แล้วโดนทำเย็นชาใส่ มันทรมานยิ่งกว่า แต่ฉันก็ยังเลือกที่จะมาอยู่ตรงนี้ เพราะฉันคิดถึงนาย
ฉันจะไม่หนี หรือหลบซ่อน อีกต่อไปแล้ว
ฉันจะอยู่ตรงนี้ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจ ว่านายเกลียดฉันมากมายแค่ไหนก็ตาม
ขอโทษด้วยนะเกรย์ ที่ต่อไปนี้ฉันอาจจะต้องอยู่ให้นายรกหูรกตา

เรนะ!” เสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น มันเป็นเสียงของเกรย์ เขาเรียกชื่อฉัน

เขาเรียกชื่อฉัน….

ตลกตัวเองซะจริง.....ต่อให้ฉันคิดจะหนีไปให้ไกลเท่าไหร่ แต่นายจะรู้มั้ยเกรย์ แค่ได้ยินนายเรียกชื่อฉัน ฉันก็ไม่อาจไปไหนได้อีกแล้ว …. เกรย์

มันไม่ใช่อย่างที่เธอเข้าใจ คำพูดของเขา ทำให้ฉันหันหลังกลับไปมองในทันที
เพราะงั้น เลิกงอแงเป็นเด็กๆแล้วให้ฉันพาไปส่งที่บ้านเช่าซะ เกรย์พูดพลางเอามือล้วงกระเป๋า
แวบหนึ่ง ที่ฉันรู้สึกราวกับว่า ยังมีเกรย์คนเดิม เกรย์ที่แสนอบอุ่น เกรย์ของฉัน อยู่ในตัวเกรย์ผู้แสนเย็นชาตรงหน้านี้
เพราะฉันรับปากกลับมาสเตอร์ว่าจะดูแลเธอแล้ว เขาเดินนิ่งๆผ่านฉันไป

จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม …. แต่ฉันก็ยอมเดินตามเขาไปแต่โดยดี

เราสองคนเดินข้ามสะพานหินอ่อน ที่ถูกประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ มีคู่รักบางคู่ยืนมองแม่น้ำที่ไหลผ่านเบื้องล่าง พลางพูดจาและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ถ้าความสัมพันธ์ของเราเป็นเหมือนเมื่อก่อน ฉันว่าทุกอย่างมันคงดีกว่านี้

ถามอะไรหน่อยได้มั้ย เกรย์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบระหว่างเราสองคน
อื้มม ฉันได้แต่ครางในลำคอ
ช่วงเวลาที่พวกเราติดอยู่ที่เกาะเท็นโร 7 ปี มันทำให้ฉันและพวกนัทสึไม่แก่ลงถ้านับตามจริงแล้วตอนนี้เธอน่าจะแก่กว่าฉันสัก 6 ปี ใช่มั้ย แต่ทำไมเราถึง...ยังดูอายุเท่ากันอยู่เลย
ฉันขำกับคำถามของเขาเล็กน้อย ฉันดีใจนะที่เกรย์ดูเหมือนใส่ใจกับรายละเอียดในตัวฉัน

นายอยากให้ฉันเป็นยัยป้าแก่เหรอไง เอ๊ะ! หรือว่านายชอบคนที่แก่กว่า ฉันแหย่
ตอบให้ตรงคำถาม เกรย์ทำน้ำเสียงเย็นชา
เชอะ นายนี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย …. ช่วงที่พวกนายติดอยู่ที่เกาะเท็นโร ฉันก็ติดอยู่ที่โลกมังกรเหมือนกัน
โลกมังกร!” เกรย์ดูจะตกใจกับสถานที่ที่ฉันพูดถึงไม่น้อย
ใช่  ฉันอยู่ที่โลกมังกรตลอด 7 ปีที่นายไม่อยู่ เกรย์ ฉันใช้พลังจิตของเฟรย่า ในการติดต่อสื่อสารกับคุณย่าทวดที่โลกมนุษย์ และไปๆมาๆบ้างเมื่อถึงคราวจำเป็น
เฟรย่า?”
เฟรย่า คือมังกรแห่งแสงสว่าง เธอช่วยชีวิตฉันไว้ หลังจากเธอสัมผัสได้ถึงลาคิม่าแห่งแสง ที่ถูกฝังไว้ในตัวฉัน เธอก็พาฉันไปที่โลกของมังกร เธอสอนเวทย์มนต์และมอบพลังดราก้อนสเลเยอร์ให้กับฉัน และยังช่วยหายาที่ทำให้อาการป่วยของฉันทุเลาลงด้วย
นี่มันเรื่องอะไรกัน ดราก้อนสเลเยอร์ และยังลาคิม่าในตัวเธออีก เธอมีพลังแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
ตั้งแต่ที่ฉันย้ายไปอยู่กับคุณย่าทวด อาการฉันก็ทรุดลงทุกวันๆ คุณย่าทวดจึงตัดสินใจฝังลาคิม่าแห่งแสงเข้าไปในตัวฉัน เหมือนกับที่ท่านลุงอิวาน เคยฝังลาคิม่าแห่งไฟฟ้าลงไปในตัวพี่ลักซัสนั่นแหละ มันช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น แถมยังใช้พลังของดราก้อนสเลเยอร์รุ่น 2ได้อีกด้วย
เกรย์เงียบไป ฉันจึงเล่าต่อ
แต่หลังจากที่เฟรย่าช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันก็ได้เรียนเวทย์มนต์และศิลปะการต่อสู้จากเธอ  มันเลยทำให้ฉันเป็นดราก้อนสเลเยอร์ลูกผสมระหว่างรุ่น 1 กับ 2 ล่ะมั้ง

ที่เธอบอกว่าเฟรย่าช่วยชีวิตเธอ ใครทำอะไรเธอ เกรย์ถามคำถามออกมานิ่งๆ ยากที่จะอ่านความรู้สึกของเขาออก
ตอนนั้น ที่เฟรย่ามาช่วยไว้ …. เพราะฉันพยายามจะฆ่าตัวตายน่ะ ฉันยิ้มเจื่อนๆ

เธอทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นได้ยังไง บอกฉันมาสิ!! ห๊ะ!!”  เกรย์พุ่งเข้ามาจับไหล่ของฉันแล้วเขย่า
พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมถึงได้น่ากลัวแบบนี้นะ

ไม่เล่าได้มั้ย ฉันทำเสียงอ่อย จะให้ฉันบอกได้ยังไง ว่าสาเหตุที่ฉันคิดฆ่าตัวตาย เพราะคิดว่าโลกใบนี้ ไม่มีเขาอยู่แล้ว
ไม่ได้!” คนตรงหน้ายืนกราน เขายังไม่ปล่อยแขนฉัน แต่กลับบีบแน่นขึ้นอีก
เกรย์….ฉันเจ็บ เขาดูเหมือนจะรู้สึกตัว จึงปล่อยมือที่บีบไหล่ฉันออก
เล่ามา!”
มันเป็นคำสั่งเหรอ ฉันถาม
ฉันบอกให้เล่ามา บอกสาเหตุที่ทำให้เธอคิดทำอะไรบ้าๆแบบนั้น
ทีนายยังไม่เคยพูดเลย ว่าทำไมอยู่ๆนายถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
นั่นมันเรื่องของฉัน!” เกรย์ขึ้นเสียง
นี่มันก็เรื่องของฉันเหมือนกัน!” ฉันไม่ยอมแพ้
เราสองคนจ้องตากันเขม็ง ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมตัวเองถึงกล้าทำแบบนี้กับเขา

ที่นายถาม เพราะนายห่วงเหรอเกรย์ ถ้าใช่ฉันจะยอมบอกก็ได้ ฉันยื่นข้อเสนอให้คนตรงหน้า
เกรย์จ้องเข้ามาในดวงตาฉันอย่างเนิ่นนาน ราวกับคิดจะอ่านใจ
ช่างเถอะ สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายที่ยอมถอนสายตาออกไป

ทำไม ฉันถึงรู้สึกผิดหวังแบบนี้นะ

อย่าทำเหมือนว่านายห่วงใย ทั้งๆที่นายไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้วเลยเกรย์ …. ฉันรู้ ว่านายไม่เหมือนเดิมแล้ว ฉันเดินจากไป พร้อมกับทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง
ความน้อยเนื้อต่ำใจที่รุมสุมเข้ามา ทำให้น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาอีกครั้ง
ถ้าฉันบอกว่ารักนาย แล้วขอให้นายกลับมารักฉันเหมือนเดิม …. มันจะเป็นไปได้มั้ยนะ …. เกรย์  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น