Chapter
13
“หึหึ เนี่ยน่ะเหรอ จอมเวทย์แห่งแฟรี่เทล
โดนปืนใหญ่แห่งลาคริม่าเข้าไปหน่อยก็ร่วงลงมาซะแล้ว”
หญิงสาวที่ดูทรงอำนาจพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เมื่อมองไปยังร่างไร้สติของหญิงสาวอีกคน ที่พึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า
หญิงสาวที่ดูทรงอำนาจพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เมื่อมองไปยังร่างไร้สติของหญิงสาวอีกคน ที่พึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า
“จะเอายังไงกับมันดีครับนายหญิง” ลูกน้องคนหนึ่งหันไปถามผู้เป็นนาย
“เก็บมันไว้ก่อน
อีกไม่นานพวกที่อยู่ข้างนอกต้องบุกเข้ามาแน่......” หญิงสาวคนเดิมออกคำสั่ง
“เห้ย! จับนังนี่ไปมัดไว้สิวะ”
ลูกน้องคนเดิมซึ่งดูเหมือนจะเป็นระดับหัวหน้า
หันไปสั่งพวกลูกกระจ๊อกที่อยู่ด้านหลัง
“เดี๋ยวก่อน มันเป็นจอมเวทย์
เชือกธรรมดาเอาไม่อยู่หรอก” หญิงสาวที่ถูกเรียกว่านายหญิงของเหล่าดาร์คฟ็อกซ์ก้าวออกมาข้างหน้า
“Dark Bind”
แสงสว่างสีม่วงขุ่นมัวสว่างวาบรอบแขนของหญิงสาวที่ไม่ได้สติ
ก่อนจะกลายเป็นเชือกรวบมือเธอไว้อย่างแน่นหนา
“หึ! ภูติงั้นเหรอ
แมงเม่าซะมากกว่า”
นายหญิงของเหล่าดาร์คฟ็อกซ์หัวเราะอย่างชั่วร้าย ก่อนจะก้มตัวจิกผมของคนที่นอนอยู่กับพื้นขึ้นมา พร้อมกับพูดเสียงเย็นว่า
นายหญิงของเหล่าดาร์คฟ็อกซ์หัวเราะอย่างชั่วร้าย ก่อนจะก้มตัวจิกผมของคนที่นอนอยู่กับพื้นขึ้นมา พร้อมกับพูดเสียงเย็นว่า
“เธอช่างโชคร้ายจริงๆนะสาวน้อย เพราะฉันน่ะ ....”
“จะฆ่าผู้หญิงสวยๆทุกคนที่ฉันเจอ”
เธอกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่สลบสไสลไม่ได้สติ ราวกับตั้งใจให้มันกลายเป็นยิ่งกว่าฝันร้ายของเธอ
เธอกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่สลบสไสลไม่ได้สติ ราวกับตั้งใจให้มันกลายเป็นยิ่งกว่าฝันร้ายของเธอ
ตู้มมมมมมม เปรี้ยงงงงง เพล้งงงง เคร้งงงง คร่อกก
แอร่กกก!! (<<< เสียงอะไรเนี่ย = =// คนเขียน)
“แย่แล้วครับนายหญิง” ลูกกระจ๊อกคนหนึ่งวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนมาหาผู้เป็นนาย
“เกิดอะไรขึ้น” นายหญิงตวาดเสียงแหลม
“น้ำแข็งครับ! น้ำแข็งตะ...ตก แอร่ก”
ยังไม่ทันพูดจบ ร่างของลูกน้องคนนั้นก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งไปต่อหน้าต่อตาผู้เป็นนาย สร้างความตกใจให้แก่ผู้ที่อยู่บริเวณนั้นไม่น้อย
ยังไม่ทันพูดจบ ร่างของลูกน้องคนนั้นก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งไปต่อหน้าต่อตาผู้เป็นนาย สร้างความตกใจให้แก่ผู้ที่อยู่บริเวณนั้นไม่น้อย
“หึ! นี่น่ะเหรอกลุ่มกองโจรดาร์กฟ็อกซ์
เปลี่ยนเป็นลิตเติ้ลปับปี้ซะดีกว่ามั้ง” ชายหนุ่มผู้มาใหม่ปรากฏกายขึ้น
พร้อมกับใช้หลังมือเช็ดเลือดที่มุมปาก
“ไหน! ใครมันอยากเจ็บตัวเป็นรายต่อไป”
เสียงที่ข่มขู่ และท่าทางที่ทรงพลังนั่น ทำให้เหล่าดาร์กฟ็อกซ์
ถึงกับมือสั่น ปากสั่น ขาสั่น
นี่น่ะเหรอ.....ความแข็งแกร่งของจอมเวทย์แห่งแฟรี่เทล
แค่เพียงคนเดียว ก็สามารถปราบกองโจรที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มกองโจรที่ชั่วร้ายที่สุดแห่งปีได้สำเร็จแล้ว
หมอนี่มันปีศาจชัดๆ
“ถ้ายังพอมีความฉลาดอยู่บ้าง...ก็ส่งยัยนั่นคืนมาให้ฉันซะ
Ice Make Lance!!”
หอกน้ำแข็งมากมาย พุ่งออกมาจากมือของชายหนุ่ม ทำให้เหล่าลูกกระจ๊อกแห่งดาร์กฟ็อกซ์ทั้งหลายต้องวิ่งหาที่กำบังกันให้วุ่น บางรายถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ เพราะพลาดท่าโดนหอกน้ำแข็งปักเข้า
หอกน้ำแข็งมากมาย พุ่งออกมาจากมือของชายหนุ่ม ทำให้เหล่าลูกกระจ๊อกแห่งดาร์กฟ็อกซ์ทั้งหลายต้องวิ่งหาที่กำบังกันให้วุ่น บางรายถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ เพราะพลาดท่าโดนหอกน้ำแข็งปักเข้า
“เธอสินะ .... ที่เป็นนายหญิงของดาร์กฟ็อก ....
ฉันขอนับ 1-3 ถ้าเธอไม่คลายเวทย์ให้ยัยนั่น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ชายหนุ่มชี้หน้าผู้เป็นนายหญิงของเหล่าดาร์กฟ็อกซ์นิ่ง
ดูก็รู้....ว่าเขาเอาจริงแน่
“ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษ ที่จะไม่ทำอะไรผู้หญิงหรอกนะ....โดยเฉพาะถ้าผู้หญิงคนนั้น.....มันมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน!!”
ชายหนุ่มประกาศกร้าว
“คิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ” เพราะไม่ต้องการเสียเกียรตินายหญิงแห่งดาร์กฟ็อกซ์
หญิงสาวจึงก้าวออกมาด้านหน้า
“DARK CHASER”
ลำแสงสีม่วงขุ่นพวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือผู้ร่าย ก่อนจะพุ่งตรงไปหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้า แต่เขากลับไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวแม้แต่น้อย
ลำแสงสีม่วงขุ่นพวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือผู้ร่าย ก่อนจะพุ่งตรงไปหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้า แต่เขากลับไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวแม้แต่น้อย
“ICE MAKE SHIELD” เกาะน้ำแข็งขนาดยักษ์ผุดขึ้นที่ด้านหน้าของชายหนุ่ม
เป็นเกราะกำบังอย่างดีจากพลังเวทย์สีม่วงนั่น
“หึ ! ร้ายกาจนักนะ ไอ้แมงเม่า”
ผู้เป็นนายหญิงแผดเสียงใส่
“ของจริงมันต่อจากนี้ตะหาก ICE GEYSER” หอคอยน้ำแข็งผุดขึ้นในตำแหน่งที่หญิงสาวยืน
โชคยังดีที่เธอกระโดดหลบได้ทัน แต่มีหรือว่าจอมเวทย์น้ำแข็งจะปล่อยให้เป็นแบบนั้น
“ICE MAKE HAMMER” ค้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ตกใส่ร่างหญิงสาวเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“หึ มันจบแล้ว.....” ชายหนุ่มเดินย่างสามขุมเข้าไปหานายหญิงของเหล่าดาร์กฟ็อกซ์ที่นอนหมอบอยู่กับพื้น
เพราะแผลฉกรรจ์ที่ได้รับจากการต่อสู้กับเขา
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง” รอยยิ้มเหี้ยม
ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว
“DARK CONTROL” แสงสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากมือของเธอ
ชายหนุ่มผู้ใช้น้ำแข็งเตรียมตั้งรับเต็มที่
แต่แสงนั่นกลับไม่ได้พุ่งตรงมาหาเขา ..... มันพุ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
ทิศทางที่ผู้หญิงอีกคนนอนอยู่
“เรนะ!!” ชายหนุ่มตะโกนเรียกชื่อของเธอคนนั้น
“หึ!!” นางมารร้ายแสยะยิ้ม
“บอกลาผู้หญิงของแกได้เลย ELECTRIC SHOCK”
///////////////// GRAY
////////////////////////
หัวใจของผมแทบแตกสลาย
เมื่อเห็นร่างของเรนะถูกสายฟ้าซึ่งเป็นเวทย์มนต์ของยัยปีศาจนั่นผ่าเข้ากลางตัว
ทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าจะปกป้องเธอได้แท้ๆ.....
ทำไม...ทำไมผมถึงเป็นคนที่น่าสมเพชแบบนี้ ....
กับอีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ผมยังปกป้องเธอไม่ได้เลย
ผมพุ่งเข้าไปด้วยความเดือดหมายจะเอาชีวิตผู้เป็นนายหญิงของดาร์กฟ็อกซ์
แต่ทันใดนั้นผมก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะยัยปีศาจนั่น
ใช้ร่างของเรนะเป็นเกราะกำบังให้ตน
“เป็นอะไรไป...เข้ามาสิจอมเวทย์น้ำแข็ง....ตอนนี้นายคงอยากจะฆ่าฉันจนแทบบ้าสินะ”
“แก....” ผมกัดฟันกรอด
“นังนี่คงมีความหมายกับแกมากล่ะสิ....น่าสนุกจริงๆ ฮ่าๆ”
ยัยปีศาจหัวเราะเสียงแหลม
“เข้ามาสิ ... ความหยิ่งผยองตะกี้หายไปไหนหมดซะล่ะ”
“จะบอกให้รู้ไว้เอาบุญก็ได้นะหนุ่มน้อย....เวทย์ของฉัน
DARK BIND สามารถกักเก็บและดูดพลังเวทย์จากผู้ที่โดนเวทย์นี้เข้า...พูดง่ายๆก็คือพลังเวทย์ของนังเด็กนี่กำลังถูกดูดออกมา
และแกก็คงรู้ดีใช่ไหม ว่าถ้าดูดออกมาหมดแล้ว...นังนี่จะเป็นยังไง ฮ่าๆๆ”
เกลียดเสียงของยัยผู้หญิงคนนี้จริงๆ มันทั้งแหลม ทั้งสูง
แสบแก้วหูโว้ย
“ก็ตายน่ะสิ....ฮ่าๆๆๆๆ” พวกดาร์กฟ็อกซ์ช่วยกันประสานเสียงหัวเราะ
ผมควรจะทำยังไง .... ผมจะช่วยเธอได้ยังไง
“เลือกเอาแล้วกัน
ว่าแกอยากให้ฉันดูดพลังเวทย์ของนังนี่จนหมดตัว....หรือจะเข้ามาสู้กับฉัน หึหึ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ....ด้วยเวทย์มนต์ของฉัน
ฉันสามารถบังคับคนที่อยู่ภายใต้อำนาจของ DARK BIND ให้ขยับไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ....หึหึ
มันเป็นโล่ชั้นดีเลยล่ะ ใช่มั้ย”
รอยยิ้มเหี้ยมๆ น้ำเสียง และแววตาที่เย้ยหยันนั่น
ต่อให้เป็นผู้หญิงผมก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอก
แต่ตอนนี้มันมีเรนะเป็นตัวประกัน .....
ผมควรจะทำยังไงดี
/////////////// Erza //////////////////
“ในที่สุด ก็ตัดสินใจได้แล้วสินะ”
“อื้ม ก็คงต้องแบบนี้ล่ะ” คนตรงหน้าพูดขึ้น
พลางมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว
“ฉันดีใจที่นายจะมาอยู่กับเรานะเจราล” ฉันยิ้มให้เขา
“มันน่าดีใจตรงไหน รับอดีตอาชญากรตั้งสามคน
เข้ากิลด์พร้อมกันเนี่ยนะ”
ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ต่อให้เขาทำดีชดเชยเท่าใด
เค้าก็ยังไม่เลิกเรียกตัวเองว่าอาชญากร
ไม่ยอมลืมเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้น
และยังคงโทษว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุมาจากตัวเขา
ทั้งเรื่องที่ซิม่อนตาย....เรื่องที่หอคอยสวรรค์....รวมถึงเรื่องของฉัน
“มาสเตอร์ของเธอ เป็นพวกประหลาดจริงๆด้วยสินะ”
“นั่นแหละมาสเตอร์ล่ะ” ฉันยิ้มเมื่อนึกเหตุการณ์เมื่อสักครู่
/////////////// หลายนาทีก่อน ///////////////
“มาสเตอร์คะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
“เอ้า! เอลซ่าเองหรอกเหรอ
มีอะไรก็ว่ามาสิ” ชายชราเอ่ยขึ้น พลางหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ
“จะเป็นไรมั้ยคะ....ถ้า...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ มาสเตอร์ก็ขัดขึ้นว่า
“เอ้า! เจราล จะหลบอยู่ตรงนั้นไปจนถึงเมื่อไหร่”
เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกถึงกับสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกมาจากที่ซ่อนตัว
“ขอโทษครับ” เจราลมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ามาคารอฟ
มาสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุค
ไม่มีอะไรรอดสายตามาสเตอร์ไปได้เลยสินะ.....
คนๆนี้ ถึงจะอายุมากแต่สายตายังเฉียบคมราวกับเหยี่ยว
คนๆนี้ ถึงจะอายุมากแต่สายตายังเฉียบคมราวกับเหยี่ยว
“เจ้าสองคนมีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะ”
“เอ่อ….คือ…..”ฉันอ้ำอึ้งไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนก่อน
“อย่าบอกนะว่า
เจ้าเจราลมันจะมาขอเธอแต่งงานน่ะเอลซ่า” มาสเตอร์โพล่งขึ้น
“ใช่ซะที่ไหนล่ะคะมาสเตอร์!!
หมอนี่น่ะมีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วนะ”
ใบหน้าของฉันร้อนผ่าว เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงนั้นได้เป็นอย่างดี
ใบหน้าของฉันร้อนผ่าว เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงนั้นได้เป็นอย่างดี
“เอ้าเหรอ!
ก็เห็นมิร่าเจนบอกฉันว่า หมู่นี้เธอไม่ค่อยอยู่ที่กิลด์เพราะออกไปหาใครบางคน
ไอ้ฉันก็หลงนึกว่าเป็นเจ้านี่ซะอีก” มาสเตอร์พูดไปหัวเราะไป
ส่วนเจราลก็เอาแต่มองหน้าฉันแล้วยิ้มไม่หยุด.....อะไรของนายห๊ะ!
“คือฉันอยากขออนุญาติมาสเตอร์ให้เจราล
อุลเทียร์ แล้วก็เมลดี้ เข้ากิลด์เราน่ะค่ะ”
“เรื่องแค่นี้เองน่ะเหรอ….” มาสเตอร์ยกถ้วยชาขึ้นดื่มก่อนจะเงยหน้าสบตากับเจราลที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน
“ฉันจะปฎิเสธอดีตหนึ่งในสิบจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ยังไงกัน
ถ้าเจ้านี่เข้ากิลด์เรา กิลด์เราก็ยิ่งดังน่ะสิ ฮ่าๆ ส่วนแม่สองสาวนั่นก็น่ารักใช่ย่อย
ใช่มั้ยเล่า รับๆๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้มากแล้ว”
มาสเตอร์ออกอาการตาแก่ขี้หลีทันที เมื่อพูดถึงอุลเทียร์และเมลดี้
มาสเตอร์ออกอาการตาแก่ขี้หลีทันที เมื่อพูดถึงอุลเทียร์และเมลดี้
“แต่ว่าผม…”
เจราลขัดขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยสบายใจนัก
ใช่ค่ะ กว่าเขาจะยอมมาอยู่กับฉัน....เอ่อ
ฉันหมายถึงเข้าแฟรี่เทลน่ะ ต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่หลายวันเลยนะ ....
ฉันต้องเอาเรื่องของยัยเรนะมาอ้าง (ขอโทษด้วยนะเรนะ T^T) ว่าถ้าเขาอยากคอยคุ้มกันเรนะจากเซเรฟ
ทำไมไม่เข้ามาอยู่ที่กิลด์ล่ะ จะได้คอยเฝ้าดูเด็กนั่นได้ตลอดเวลา
ในตอนแรกเจ้าตัวก็ลังเลเล็กน้อย....แต่พอคิดไปคิดมาก็ยอมเข้ากิลด์แต่โดยดี
เพราะหมู่นี้ลูกน้องของเซเรฟกำลังออกอาละวาดไปทั่วอาณาจักร
ข่าวลือที่ว่า....พวกมันกำลังตามหามิโกะแห่งแสงสว่างอันศักด์สิทธิ์อะไรนั่น
ก็คงเป็นความจริงสินะ
“ไม่ต้องแต่อะไรแล้ว เรื่องในอดีตมีไว้เพื่อสอนให้คนเราเติบโต
และก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ถึงแม้ในอดีตจะเคยเจอกับเรื่องร้ายแรงแค่ไหน
จะเคยล้มมาแล้วสักกี่ครั้ง แต่จำไว้นะเจราล….จงเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้เตือนใจ
และใช้เป็นพลังเพื่อจะลุกขึ้นสู้และก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า”
ฉันยิ้มกับคำพูดของมาสเตอร์ อดีตมีไว้เตือนใจ….เพื่อให้คนเราก้าวเดินต่อไปสินะ
นายเองก็ควรจะได้เริ่มต้นกับชีวิตใหม่นี่ อย่างเต็มที่สักทีนะ
…. เจราล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น