Chapter
11
///// Rena //////
ในที่สุดฉันกับเกรย์ก็มาถึงชายป่าทางตะวันตกของเมืองโอชิบาน่า
ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนจะค่อยๆดีขึ้น
เพราะอีตาน้ำแข็งเดินได้นี่ยอมเปิดปากพูดกับฉันบ้างแล้ว
“ใกล้ถึงแล้วนะ ระวังตัวด้วยล่ะ”
คนตัวสูงที่เดินนำหน้าอยู่เอ่ยขึ้นเมื่อเราก้าวเข้าเขตชายป่า
ที่นี่เป็นที่ตั้งฐานลับของกลุ่มกองโจรดาร์กฟ็อกซ์
ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านแถบนี้เป็นอย่างมาก พวกมันทั้งจี้ ปล้น บุก
ชิงทรัพย์ ทำลายข้าวของ และยังฆ่าได้แม้กระทั่งผู้หญิง
ฉันพยายามก้าวขายาวๆให้ทันกับฝีเท้าของเกรย์
นี่ฉันพึ่งรู้ตัวนะว่าขาตัวเองสั้นขนาดนี้ = =
หรือว่านายนี่จะสูงผิดมนุษย์มนาเองนะ
หรือว่านายนี่จะสูงผิดมนุษย์มนาเองนะ
“ฉันขอแค่ไม่มีแมลงอะไรโผล่ออกมาก็พอแล้ว”
ฉันพูดขึ้น เมื่อเผลอนึกถึงสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่อาจอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้
ฉันพูดขึ้น เมื่อเผลอนึกถึงสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่อาจอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้
ใช่ค่ะ ! ตั้งแต่เด็กๆแล้ว ฉันคนนี้เกลียดพวกแมลงและสัตว์เลื้อยคลานที่สุดในโลก
“ฮ่ะๆ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะเธอเนี่ย” เกรย์หัวเราะออกมานิดหน่อย
หา!!! เดี๋ยวก่อนสิ เกรย์หัวเราะงั้นเหรอ? อีตาน้ำแข็งเดินได้คนนี้น่ะนะ
“นะ...นายหัวเราะ” ฉันพูดด้วยเสียงตะกุกตะกัก พลางจ้องไปที่เกรย์อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
“อะไร? .... ฉันหัวเราะแล้วมันผิดด้วยเหรอไง” เขาตีหน้าขรึมขึ้นทันที
ไม่น่าไปทักเลยฉัน T^T
“เปล่า...ก็แค่...ฉันไม่ได้เห็นนายหัวเราะมานานแล้ว”
“ฉันก็หัวเราะของฉันอยู่ทุกวัน” เกรย์แย้ง
“แต่ไม่ใช่ตอนอยู่กับฉันนี่” ฉันขมวดคิ้ว แล้วทำหน้าบูด
ก็จริงนี่นา
ตั้งแต่ฉันกลับมา....ยังไม่มีวันไหนที่นายจะพูดจาดีๆกับฉันเลย
“ขี้น้อยใจเป็นเด็กๆไปได้” เกรย์แอบขำ แต่ฉันเห็นนะยะ!
อ่า....เขาหัวเราะอีกแล้วล่ะ ><”
นี่มันวันอะไรกันนะ ... ทั้งเหตุการณ์บนรถไฟนั่น
แล้วยังจะมาตอนนี้อีก
นี่แค่เขาหัวเราะนิดหน่อย ฉันก็รู้สึกดีแล้วเหรอเนี่ย
อาการหนักแฮะเรา = =
“ฉันไม่ได้น้อยใจสักหน่อย” ฉันเถียงกลับ
“เหรออ?” เขาถามกลับด้วยเสียงสูง ก่อนจะอมยิ้ม
ฉันเหลือบมองเกรย์ที่เดินอยู่ข้างๆฉัน....
ไม่อยากจะคิดหรอกนะ ว่าเขาคนเดิมกลับมาแล้ว
ไม่อยากจะคิดหรอกนะ ว่าเขาคนเดิมกลับมาแล้ว
“น่ะ...นะ....นายยิ้มมากไปแล้ว
รู้ตัวมั้ย”
ไม่รู้ทำไม
แค่เพียงได้แอบมองรอยยิ้มของเขาผ่านทางหางตา
ก็ทำให้หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาได้อย่างไม่รู้สาเหตุ
เรนะ เธอจะบ้าเหรอ แค่เขายิ้ม
หัวใจเธอก็เต้นแรงแล้วเหรอไง
“นั่นสินะรังของพวกมัน” เสียงของเกรย์ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์
เขาชี้ไปยังเบื้องหน้า
ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดูคล้ายกับค่ายทหารเก่า มีรั้วไม้ไผ่สูงริ่วล้อมรอบทั้งสี่ด้าน
หมดสิทธิ์ที่จะแอบปีนเข้าไปแน่นอน
“รั้วสูงชะมัด
เราจะเข้าไปกันยังไงละเนี่ย” ฉันพูดขึ้นพลางแหงนหน้ามองเสาไม้ไผ่พวกนั้น
“มันต้องมีสักทางนั่นแหละ”
ยังไม่ทันที่เกรย์จะพูดต่อ
อยู่ๆเขาก็รีบดึงแขนฉันให้ไปหลบอยู่หลังก้อนหินยักษ์ก้อนหนึ่งอย่างว่องไว
“อ๊ะ!” ฉันอุทานขึ้น พร้อมกับมือใหญ่ๆของคนตรงหน้าที่พุ่งมาปิดปากฉัน
“ชู่
เงียบก่อน” เขากระซิบ
แล้วมองไปยังประตูใหญ่ของฐานลับที่อยู่ไม่ไกลจากเรา
ชายหน้าตาโหดๆสามคนกำลังเดินออกมาจากประตูที่ว่านั่น
บ้าน่า!! พวกมันกำลังเดินตรงมาทางนี้นี่
บ้าน่า!! พวกมันกำลังเดินตรงมาทางนี้นี่
“เงียบไว้นะ” เกรย์กำชับ และกระชับอ้อมแขนที่โอบรอบตัวฉันแน่นขึ้นอีก
จะผิดมั้ย
ถ้าฉันจะบอกว่า…..ขนาดเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้
หัวใจฉันยังเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา เหตุเพียงเพราะตอนนี้เขากำลังกอดฉันอยู่
โอ้ยยย!! อยากจะหยุดเวลาไว้แค่ตอนนี้จัง
ถึงเขาจะเป็นเจ้าชายน้ำแข็งผู้แสนเย็นชา แต่อ้อมกอดของเขาคนนี้ อบอุ่น ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ
ถึงเขาจะเป็นเจ้าชายน้ำแข็งผู้แสนเย็นชา แต่อ้อมกอดของเขาคนนี้ อบอุ่น ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ
“เบื่อๆว่ะ
ไปหาเรื่องคนในหมู่บ้านดีมั้ย” ไอ้หน้าโหดหมายเลขหนึ่งพูดขึ้นเสียงดัง
จนฉันได้ยิน
“ฉุดสาวๆกลับมาด้วยดีกว่ามั้งลูกพี่” ไอ้หน้าโหดหมายเลขสองเสนอ
ไอ้ชั่วเอ้ย!
“เห็นด้วย” ไอ้หน้าโหดหมายเลขสามช่วยเสริม
“จะดีเหรอวะ
วันนี้นายหญิงจะเข้ามาที่ฐานไม่ใช่เหรอไง” ไอ้หน้าโหดตัวที่หนึ่งแย้ง
“เอ้อ! จริงด้วย ลืมไปสนิทเลย” ไอ้หน้าโหดตัวที่สามเอามือปิดปาก
เมื่อพูดถึงคนที่ถูกเรียกว่า นายหญิง
อะไรกัน
ไม่อยากจะเชื่อว่าบอสของพวกมันจะเป็นผู้หญิงเหรอเนี่ย
ทำอะไรโหดร้ายแบบนี้ลงคอ ได้ยังไง
ทำอะไรโหดร้ายแบบนี้ลงคอ ได้ยังไง
สุดท้ายไอ้เจ้าสามตัวนั่นก็เดินผ่านที่ที่ฉันและเกรย์ซ่อนตัวอยู่ไป
โดยไม่แม้แต่จะเคลือบแคลงสงสัยอะไรเลย…
เห้ออ โล่ง!
“ท่าจะสนุกล่ะงานนี้
ดูเหมือนตัวแม่มันจะมาคืนนี้ด้วย” เกรย์หักข้อมือดังกรอบแกรบ
หยึยยยยย
เดี๋ยวนี้นายติดเชื้อนัทสึมาเหรอไงเนี่ยเกรย์ อย่าโหดได้มั้ย ><”
“รอนายหญิงมันมาแล้วเราจะบุกกัน” เกรย์สรุปแผน
“เอ่อ….แค่เราสองคนจะไหวเหรอเกรย์ ข้างในมันมีกี่คนก็ไม่รู้
ท่าทางงานนี้จะโหดอยู่นะ” ฉันพูดขึ้นด้วยความกังวล
“ถึงมันจะเป็นกลุ่มกองโจร
แต่ก็แค่คนธรรมดา ไม่มีใครใช้เวทย์ได้หรอกมั้ง แค่ฉันกับเธอก็พอแล้วล่ะงานนี้”
“เธอ ….. ไม่เชื่อใจฉันเหรอไง” เกรย์มองตาฉัน
“ปะ….เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น” ฉันเสมองไปทางอื่น
เพื่อซ่อนใบหน้าที่ขึ้นสีไว้
หมู่นี้
รู้สึกว่าเราสองคนจะอยู่ใกล้กันเกินไปแล้วนะ
“แล้วจะหน้าแดงทำไม” เขาถามขึ้น
“แล้วนายจะถอดเสื้อทำไมเล่า!!” ฉันโวยวายกลับ เพื่อกลบความเขินของตัวเอง
เขาถอดเสื้อ….แต่ทำไมคนเขินคือฉันหว่า =
=
ไม่เข้าใจเลยจริงจริ๊ง
“เห้ยยย!!”
เจ้าตัวดูท่าจะตกใจกับสภาพเปลือยท่อนบนของตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
เจ้าตัวดูท่าจะตกใจกับสภาพเปลือยท่อนบนของตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
“รีบใส่เสื้อสิคนบ้า!”
ฉันเอามือปิดตาตัวเอง แต่แอบมองเขาผ่านทางช่องว่างระหว่างนิ้ว (<< แล้วมันจะปิดเพื่อ!?)
ฉันเอามือปิดตาตัวเอง แต่แอบมองเขาผ่านทางช่องว่างระหว่างนิ้ว (<< แล้วมันจะปิดเพื่อ!?)
“อะไรกันๆ
ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้”
“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า!!” ฉันโวยวายพร้อมกับใบหน้าที่ร้อนฉ่า
ก็จริงอยู่ ว่าตอนเด็กๆ
ฉันเห็นเกรย์โป๊ท่อนบนบ่อยจนชินตา นายนี่ชอบใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวเดินไปเดินมา
โดยไม่อายสายตาประชาชี
ให้ตายเถอะ!.... . แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันว้อยค่ะ!!
นายเข้าใจมั้ยเนี่ย
ให้ตายเถอะ!.... . แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันว้อยค่ะ!!
นายเข้าใจมั้ยเนี่ย
โอ้ยยย เวียนหัว
จะเป็นลม โฮกกกกก คนบ้า!
เมื่อเห็นอาการใกล้หัวใจวายเต็มแก่ของฉัน
เกรย์เลยจำต้องหยิบเสื้อของตัวเองขึ้นมาใส่อย่างขัดใจ
“งั้นเดี๋ยวฉันไปดูลาดเลาให้เอง
เธอรออยู่นี่แหละ” เขาพูดขึ้น
“นายจะเข้าไปยังไง” ฉันถามอย่างอดห่วงไม่ได้
“ปีนรั้วนั่นขึ้นไปมั้ง” เขาชี้มือไปทางรั้วไม้ไผ่ที่สูงละฟ้า
“จะบ้าเหรอ! เดี๋ยวก็ตกลงไปแข้งขาหักตายหรอก”
“แล้วจะให้ทำยังไง
ไม่งั้นก็ต้องนั่งรอมันอยู่ตรงนี้แหละ”
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง” ฉันเสนอตัว
“เธอเนี่ยนะ” เกรย์ดูไม่ค่อยมั่นใจความสามารถของฉันเท่าไหร่
“เกิดไปซุ่มซ่ามเดินเตะนั่นนู่นนี่
หรือหกล้มหัวฟาดพื้นขึ้นมาจะทำไง พวกมันได้รู้ตัวพอดีสิ”
นี่นาย! ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้นนะยะ
“อย่ามาดูถูกพลังของดราก้อนสเลเยอร์แห่งแสงนะ!!” ฉันพูดด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม
แล้วฉันจะแสดงให้นายดู…เกรย์
ตลอดหลายปีที่เราไม่ได้เจอกัน ฉันเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆหรอกนะ
ตลอดหลายปีที่เราไม่ได้เจอกัน ฉันเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆหรอกนะ
สิ่งที่เฟรย่าพร่ำสอน ….. ฉันจะไม่ให้มันสูญเปล่า
“ปีกแห่งมังกรแสง Holy
Wing!!”
//////////////////
GRAY //////////////////////
อยู่ๆรอบตัวของยัยนั่น
ก็มีแสงสว่างสีขาวเป็นประกายระยิบระยับเกิดขึ้น
แสงสว่างที่ดูยังไงแล้วก็แสบตา
แต่กลับให้ความอบอุ่นอย่างประหลาด
แสงเหล่านั้นค่อยๆรวมตัวกันเป็นปีกขนนกสีขาวด้านหลังเธอ
นี่น่ะเหรอ…..เวทย์มนต์ของดราก้อนสเลเยอร์แห่งแสงสว่าง
“ลืมบอกไปว่าดราก้อนสเลเยอร์แห่งแสงสว่างน่ะ
บินได้ด้วยพลังเวทย์ของตัวเองนะจ๊ะ” เธอยิ้มให้ผม
แน่นอน…รอยยิ้มแบบนี้
มันคือสิ่งที่ผมชอบ
เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่เคยปฎิเสธมันได้สักครั้ง
เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่เคยปฎิเสธมันได้สักครั้ง
“เกรย์รออยู่นี่นะ
เดี๋ยวฉันจะบินขึ้นไปสำรวจข้างบนให้” เธอพูดอย่างแข็งขัน
“อื้ม” ผมรับคำ
ถึงจะเป็นดราก้อนสเลเยอร์หรืออะไรก็เถอะ … แต่ให้ไปทำอะไรแบบนี้ผมก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
มัน….ไม่สบายใจยังไงไม่รู้สิ
“ระวังตัวล่ะ” ผมพูดไล่หลังเธอ ที่ตอนนี้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว
เห้อออ….จะได้ยินมั้ยนะ
ยัยนี่ยิ่งไม่เหมือนคนอื่นเขาด้วย … ชอบเจออะไรที่ชาวบ้านเค้าไม่เจอ
แล้วนี่มาทำภารกิจครั้งแรก….ปล่อยไปแบบนี้ดีแล้วเหรอ?
ผมเฝ้ามองเธอที่ตอนนี้บินวนไปวนมาเหนือท้องฟ้านั่นอย่างอิสระเสรี
อย่างกับปีกของนางฟ้าแน่ะ ….
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ผมเผลอยิ้มออกมา
เวทย์แบบนี้ดูเข้ากับยัยนั่นดีแฮะ ^^
ในขณะที่ผมกำลังเฝ้ามองเรนะอยู่นั้น
ก็เกิดประกายแสงประหลาดพุ่งขึ้นมาจากกลางฐานลับของพวกดาร์กฟ็อกซ์
ไม่นะ!!
ประกายแสงนั่นพุ่งตรงไปยังร่างของเธอ
“เรนะ!!!!!!!!!!!!” ผมตะโกนเรียกชื่อเธอทันที โดยไม่สนว่าใครหน้าไหนจะได้ยิน
ไวเท่าความคิด
ร่างของเรนะค่อยๆร่วงลงสู่พื้นซึ่งอยู่ในบริเวณรั้วของไอ้พวกโจรนั่น
ปีกนางฟ้าที่ผมเคยเฝ้ามอง บัดนี้อันตรธานหายไปราวกับอากาศธาตุ
ไม่นะ!!!
ผมไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสองแน่
ไม่มีวัน!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น